SCC ทุ่ม 1.30 พันลบ.ซื้อหุ้นโครงการปิโตรฯคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม
SCC ทุ่ม 1.30 พันลบ.ซื้อหุ้นโครงการปิโตรฯคอมเพล็กซ์ในเวียดนามจากกลุ่มการ์ต้า ส่งผลถือเพิ่มเป็น 71% จากเดิม 46%
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ระบุว่า บริษัท วีนา เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (VSCG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ QPI Vietnam Limited (QPIV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Qatar Petroleum International เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมด 25% ของ QPIV ที่มีอยู่ใน Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในเวียดนาม
โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 36.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมของ SCC ใน LSP เพิ่มขึ้นเป็น 71% จากเดิม 46% โดยฝ่ายผู้ร่วมทุนเวียดนามมีสัดส่วน 29%
อนึ่ง LSP เป็นโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกของเวียดนาม มีความสามารถในการแข่งขันในเชิงธุรกิจ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีการเชื่อมโยงจากโรงงานปิโตรเคมีขั้นต้น ถึงขั้นปลายครบวงจร มีความสามารถประหยัดจากขนาด (Economies of scale) และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้วัถตุดิบเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจ เช่น ท่าเรือน้ำลึก และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด
สำหรับจุดเด่นของโครงการ คือการมีโรงงานผลิตเอทิลีนขนาดกำลังผลิต 1 ล้านตัน/ปี ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเลือกใช้ก๊าซฯกับแนฟทาเป็นวัตถุดิบในสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อการผลิตโอเลฟินส์รวมกันได้ถึง 1.6 ล้านตัน/ปี โดยสามารถใช้ก๊าซฯเพื่อบริหารต้นทุนได้สูงสุดถึง 80% ของวัตถุดิบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีโรงงานปิโตรเคมีขั้นปลายซึ่งผลิตโพลีโอเลฟินส์ (PE/PP)ที่มีกำลังการผลิตในปริมาณใกล้เคียงกันอีกด้วย
โดยแหล่งเงินทุนของโครงการนี้จะมีทั้งส่วนของผู้ถือหุ้น และเงินกู้ คาดว่าโครงการจะมีข้อสรุปเรื่องการลงทุน (Final Investment Decision) ภายในครึ่งแรกของปี 60 หลังจากนั้นจึงจะสรุปรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในการลงทุน คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 5 ปี และจะเริ่มผลิตได้ในปี 64
อนึ่ง LSP ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นตลาดหลักและเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามเพียง 100 กิโลเมตร โดยในปี 58 ประเทศเวียดนามมีการนำเข้าโพลีโอเลฟินส์ มากกว่า 2 ล้านตัน และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต