SET บ่ายซึมตัว โบรกฯชู 4 หุ้นปันผล-กำไรหรู

SET บ่ายซึมตัว พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 แนวต้าน 1,575-1,580 จุด โบรกฯ ชู 4 หุ้นปันผลหรู-กำไรแกร่ง นำโดย KKP, PLANB ,WORK และ STA


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (3 มี.ค.) พักฐาน รับแรง take profit ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาค-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ต่างปรับตัวลงทั่วหน้า หลังหมดประเด็นเรื่องนโยบาย”ทรัมป์”แล้ว ตอนนี้ก็รอดูถ้อยแถลงของประธานเฟดคืนนี้ว่าจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้หรือไม่ ล่าสุดความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนมี.ค.มีถึง 75.3% แล้ว บ่ายนี้ตลาดฯคงซึม พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 แนวต้าน 1,575-1,580 จุด

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักฐาน รับแรง take profit ซึ่งเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างติดลบกันทั่วหน้า และดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้ก็ติดลบด้วย หลังจากหมดประเด็นเรื่องนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯแล้ว ตอนนี้ก็รอดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ ว่าจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้หรือไม่

ทั้งนี้ ทาง CME Group Fed Watch ได้ให้น้ำหนักความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ล่าสุดมีถึง 75.3% อย่างไรก็ดี ปกติเวลาที่ใกล้ประชุม ความน่าจะเป็นมักจะปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจมีความไม่แน่นอนก็ได้ นี่อาจเป็นแค่การส่งสัญญาณให้ระมัดระวังเท่านั้น

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะซึม ๆ เพื่อรอดูถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (มี.ค.)  SET โดยรวมยังอ่อนแอกว่าที่คาด และยังไม่สามารถยืนได้เหนือ 1,570 จุด แต่คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่าง KBANK TMB KTB จะยัง Outperform ตลาดต่อไป เนื่องจาก 1) ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น 2) NPL ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว มองแรงกดดันจากการตั้งสำรองลดลง 3) สินเชื่อกลับมาขยายตัวอีกครั้งปีนี้ และ Valuation ที่ยังไม่สูงด้วย PE 9.5x ต่ำกว่า SET ที่ 15x ขณะที่หุ้นปันผลสูง อย่าง KKP และหุ้น Growth อย่าง PLANB WORK ยังแนะนำ “ซื้อ” ต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” STA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 30.0 บาท จาก 1) ความต้องการยางในตลาดโลกสูงขึ้นจากการเติบโตของยอดขายรถนนต์ และรถบรรทุกในจีน ขณะที่ STA มีการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นไปก่อนหน้านี้ คาด STA ขาย 1.7 ล้านตันปีนี้ เพิ่มจาก 1.5 ล้านตันในปีก่อน 2) การเข้าซื้อธุรกิจถุงมือยางเพิ่มเติมจาก 40% เป็น 90% จะทำให้ผลการดำเนินงาน STA มีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาว โดยจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 มี.ค.นี้ 3) High Growth ด้วยแนวโน้มกำไรเติบโตสูง 612% ปีนี้ เป็น 1.57 พันล้านบาท คิดเป็น PE 17.5x ขณะที่ทางเทคนิค มีสัญญาณ Bullish Engulfing ตั้งแต่กลางสัปดาห์ มีเป้าหมายการฟื้นตัวระยะสั้นที่ 22.4-22.5 บาท

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

KKP  มูลค่าการซื้อขาย 1,263.59 ล้านบาท ปิดที่  66.25 บาท ลดลง  0.75 บาท

TRUE   มูลค่าการซื้อขาย   860.83 ล้านบาท ปิดที่   6.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย   843.88 ล้านบาท ปิดที่  38.25 บาท ลดลง  0.50 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   819.56 ล้านบาท ปิดที่ 397.00 บาท ลดลง  2.00 บาท

STA   มูลค่าการซื้อขาย   415.28 ล้านบาท ปิดที่  21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

Back to top button