SET บ่ายยืนลบ โบรกฯ แนะเก็บ KKP ปันผลสูง
SET บ่ายยืนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,535 แนวต้าน 1,560 จุด โบรกฯ แนะเก็บ KKP ปัจจัยบวกเพียบ-ปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (8 มี.ค.) ปรับตัวลงตอบรับโอกาสเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.มีความเป็นไปได้สูงถึง 80% แล้ว ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออก ต่างชาติขาย-เงินบาทอ่อนค่า สัปดาห์นี้มองตลาดฯปรับฐาน ด้านตลาดภูมิภาคช่วงเช้าติดลบ แต่เริ่มเห็นการรีบาวด์ได้บ้าง ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังติดลบ บ่ายนี้ตลาดฯคงซึมลงเรื่อย ๆ ให้แนวรับ 1,535 แนวต้าน 1,560 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง เป็นผลจากโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้สูงถึง 80% ทำให้เป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ส่งผลให้เงินทุนไหลออก นักลงทุนต่างชาติขาย เงินบาทอ่อนค่า ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลง สัปดาห์นี้จึงมองเป็นการปรับฐาน
ขณะนี้ ตลาดฯไม่มีแรงซื้อเข้ามามีแต่แรงขายออกมาก่อนที่จะมีการประชุมเฟด ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าก็ติดลบเช่นเดียวกัน แต่ก็เริ่มเห็นการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้าง แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงติดลบ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะซึมลงเรื่อย ๆ พร้อมให้แนวรับที่ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มี.ค.) SET ปรับลดลงพร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณ “ลบ”กังวลดอกเบี้ยสหรัฐฯ ขึ้นเร็วกว่าคาด ส่งผลนักลงุ่นต่างชาติ “ปรับพอร์ต” ต่อ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ และกลุ่มหุ้นที่ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น อย่าง Micro Finance เช่น SAWAD MTLS และ GL
ทั้งนี้การปรับลลดงแรง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นสัญญาณ “ลบ” โดยถ้าอิงจากรายงาน Pathumwan Corner วันนี้ (ดูรายละเอียดในรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 8 มี.ค.) เรามองการปรับขึ้นของ Bond yield จะส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นลดลง โดย Trade Code แนะนำ “ขาย” ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ประเมินแนวรับย่อยที่ 1,532/1,521 จุด และมีแนวรับสำคัญที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 1,504-1,506 จุด มองกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 9% ปีนี้ และ 6% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า อย่าง KKP และยังสามารถบริหารจัดการ NIM ในช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้นได้จะยัง Outperform ตลาดในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
GL มูลค่าการซื้อขาย 4,937.01 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,133.22 ล้านบาท ปิดที่ 391.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,123.05 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,092.89 ล้านบาท ปิดที่ 530.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 804.14 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.75 บาท