โกงความตาย
*สิ่งที่ไม่น่าเชื่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้คือ ดัชนีโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เปิดตลาด จนปิดลบลงไปเกือบถึง 15 จุด แต่สุดท้ายดัชนีกลับขึ้นมาปิดที่ 1,551.73 จุด บวกไป 1.86 จุด ด้วยมูลค่า 6.20 หมื่นล้านบาท มันเหมือนเป็นการโกงความตายในหนังที่ “โมนิก้า” เคยดูมาแล้วหลายเรื่องด้วยกันแบบนี้ ขอบอกไว้เลยว่า มันไม่จีรังยังยืนหรอกค่ะ
เจาะกระดานหุ้น:โมนิก้าและทีมงาน
*สิ่งที่ไม่น่าเชื่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้คือ ดัชนีโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เปิดตลาด จนปิดลบลงไปเกือบถึง 15 จุด แต่สุดท้ายดัชนีกลับขึ้นมาปิดที่ 1,551.73 จุด บวกไป 1.86 จุด ด้วยมูลค่า 6.20 หมื่นล้านบาท มันเหมือนเป็นการโกงความตายในหนังที่ “โมนิก้า” เคยดูมาแล้วหลายเรื่องด้วยกันแบบนี้ ขอบอกไว้เลยว่า มันไม่จีรังยังยืนหรอกค่ะ
*เนื่องจากเรื่องราวในภาพยนตร์ที่เกิดขึ้น กับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น มันเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และประเด็นดังกล่าวก็ทำให้ “โมนิก้า” ต้องยกขึ้นมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่า ถ้าเหตุการณ์โกงความตายเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยบ่อยๆ มันจะทำให้ความมั่นใจในการลงทุนหดหายลงไปเรื่อยๆ นะจะบอกให้
*ที่สำคัญคือ ฝรั่งตาน้ำข้าวยังเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน ย่อมเป็นแรงกดดันหุ้นกลุ่มบลูชิพไปอีกระยะหนึ่ง หรือถ้ามองดูจากท่าทีของกองทุนตัวแสบที่กลับไปกลับมา ก็ทำให้ความผันผวนของดัชนีมีมากขึ้นอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงมองการลงทุนในเที่ยวนี้ยังเป็นการเข้าทำเร็ว และต้องสังเกตให้ดีว่า หุ้นตัวไหนอยู่ในทิศทางขาลง ก็ควรกระโดดหนีให้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้นะคะ
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นฉาวของตลาดหุ้นไทยอย่าง GL กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นให้ความสนใจมากมาย เพราะทำไปทำมาดันกลายเป็นเรื่องของการปล่อยกู้พิสดาร ธุรกิจไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนกับที่ชอบออกข่าว ส่งผลให้หน่วยงานสำคัญกำลังเร่งตรวจสอบอย่างหนัก และดูเหมือนเที่ยวนี้ทุกคนจะช่วยรุมกระทืบกันอย่างถ้วนหน้าด้วยนะจ๊ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงมีข้อมูลใหม่ๆ หลุดออกมาในตลาดหุ้นเยอะแยะตลอดเวลา พร้อมกันนี้ก็มีการกาหัวนักวิเคราะห์ที่ยังกล้าออกตัวแรงแบบลับๆ “โมนิก้า” ถึงสงสัยว่า งานนี้ศพไม่สวยอย่างแน่นอน! เนื่องจากแมงลือเม้าท์ให้ฟังว่า ผู้รับผิดชอบคดีโดยตรงอย่าง ก.ล.ต. กำลังจะเรียกผู้บริหารตัวแสบไปให้ปากคำแบบนี้ หุ้นถึงถูกเทขายอย่างหนัก จนรูดลงมาปิดที่ 35.75 บาท ลบไป 12.25 บาท หรือลงไป 25.50% ด้วยมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า น่าจะมีรายการแฉเกิดขึ้นอีกแบบนี้..มันพะยะค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่มันไม่แพ้กันต้องยกให้ PERM โดนเทขายหลายวันติดต่อกันแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นโพสิชั่นที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะมันหมายถึงงานเลี้ยงโต๊ะจีนเลิกแล้ว คนที่ลุกทีหลังต้องเป็นคนจ่ายรอบวง บวกกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่เอื้อเจ้ามือสักเท่าไหร่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นรูดลงมาปิดที่ 3.92 บาท ลบไป 0.36 บาท หรือลงไป 8.40% ด้วยมูลค่า 137 ล้านบาท บอกได้แค่ว่า ถอยดีกว่า!
*เช่นเดียวกับในรายของ SAWAD รูดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติด บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวยังไม่เข้ามาเก็บของอย่างเต็มตัว สภาพของหุ้นก็เลยดูไม่ดีสักเท่าไหร่ “โมนิก้า” ถึงไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำให้แฟนคลับเข้าไปรับหุ้นในช่วงที่แรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ หลังเห็นเต็มสองลูกตาว่า ราคาปิดที่ 41 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 1.22 พันล้านบาท ยังไม่ใช่จุดกลับตัวในเที่ยวนี้นะซี
*ขนาดในรายของ STA เพิ่งรีบาวด์อย่างร้อนแรงไปเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน แต่ดันโดนเทขายอย่างหนักตั้งแต่ต้นสัปดาห์ มันทำให้เซียนเทคนิคมองไปที่จุดเด้งกลับรอบก่อนบริเวณ 19.80 บาทในทันที ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 20.60 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่า 655 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่วัดใจผู้เล่นเหมือนกันว่า กล้าเข้าไปรับหุ้นในช่วงโค้งตัวลงอ่ะป่าวนะคะ
*เหมือนกับช็อตไล่ตามซื้อหุ้น LHBANK หลังกลุ่มไต้หวันได้ไฟเขียวให้เข้าซื้อกิจการ หุ้นก็เปิดกระโดดขึ้นมาปิดที่ 1.84 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่า 542 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมเสี่ยงที่คนเล่นต้องรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า วานนี้เป็นการเด้งรับข่าว วันนี้จะเป็นการพิสูจน์ความเชื่อมั่น วันถัดไปจะเป็นการวัดความอึด จึงต้องจับตาดูการเคลื่อนไหววันนี้ให้ดีเจ้าค่ะ
*ส่วนรายที่ปิดเกมอย่างแน่นอน เพราะแรงเทขายหนาแน่นผิดปกติ “โมนิก้า” คงต้องเหลือบมองไปที่ AU หลังราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 10.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่า 117 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำ new low นับตั้งแต่เข้าตลาดเอ็มเอไอ มันเป็นภาพที่ฟ้องให้ทุกคนรู้ว่า น่าจะมีราคาต่ำสุดใหม่เกิดขึ้นอีกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะวันนี้ยังเทรดบนค่า P/E 78 เท่าอยู่เลย ซึ่งมันเกินค่าปกติไปเยอะมากนะคะ
*ป.ล.ขอย้ำอีกครั้งว่า การเล่นหุ้นช่วงนี้อย่ายึดติดอะไรมากมาย เพราะอาการเหวี่ยงตัวไปมาในทิศทางที่ต่ำลงเรื่อยๆ มันหมายความว่า ตลาดกำลังเผชิญกับแรงเทขายที่มีออกมาเป็นระลอก ส่งผลให้การยืนปิดบวกโดยไม่มีอะไรเป็นแบ็คอัพ มันมีความเสี่ยงเต็มประตูหน้าต่าง..จริงหรือไม่..ลองไปคิดกันเอาเองเจ้าค่ะ