สังคมข่าวหุ้น

*ตลาดหุ้นไทยยังไม่สะเด็ดน้ำ *ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อเนื่อง รับเฟดเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าในการประชุม 15 มี.ค.นี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ออกมาพูดในทิศทางเดียวกันว่า เฟดจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้


เกียรติก้อง ว่องไวยากร

 

*ตลาดหุ้นไทยยังไม่สะเด็ดน้ำ

*ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อเนื่อง รับเฟดเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าในการประชุม  15 มี.ค.นี้  หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ออกมาพูดในทิศทางเดียวกันว่า เฟดจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้  ส่วนช่วงนี้นักวิเคราะห์แนะนำ เก็งกำไรช่วงสั้นๆ  ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหรือหุ้นที่มีลักษณะเป็น Defensive ที่ไม่อิงกับภาวะตลาดมากนัก  SQ SAWAD KCE   BDMS  แต่บางสำนักฯ ก็มองว่าหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ตลาดหุ้นจะรีบาวด์อีกครั้ง  ขณะที่วานนี้ต่างชาติยังคงขายสุทธิ 325 ล้านบาท รวมทั้งกลุ่มสถาบัน ซื้อขายในแดนลบ ดัชนี 2.49 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ระดับ 1,549.24 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,047.50 ล้านบาท แนวรับ แรก1,540 จุด  หากหลุดแนวรับต่อไป  1,530 จุดน่าจะเอาอยู่

*หุ้นพลังงานร่วงกดดันตลาดฯ หลังจากราคาน้ำมันร่วงหนัก  PTT ภายใต้การนำของ เทวินทร์ วงศ์วานิช CEO และเอ็มดี ปตท. นำขบวนปรับตัวลดลง  หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นกดดันต่อราคาน้ำมัน และเป็นลบต่อราคาหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี  กลุ่มต้นน้ำ PTTEP  และ PTT ส่วนกลุ่มปลายน้ำ TOP, IRPC, BCP, PTTGC, IVL  จะได้รับผลลบน้อยกว่า เพราะค่าการกลั่น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมี คาดว่ายังดีในไตรมาสแรกนี้

*ศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป  หรือ LHBANK คอนเฟิร์มดีลไต้หวันเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ แน่นอน หลังได้รับหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการจาก CTBC เมื่อวันที่ 7 มีนาคม งานนี้ได้ราคาพรีเมี่ยมเกือบ 20% จากราคาในกระดาน ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ LH QH ได้รับประโยชน์จากดีลนี้ไปเต็มๆ  คาดว่ารายได้และกำไรจะเพิ่มอีกมโหฬาร หลังไต้หวันเข้ามาร่วมทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท

*นักวิเคราะห์ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มแบงก์เพิ่ม คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น แบงก์ใหญ่ SCB  KTB  ภายใต้การนำของ ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย   KBANK ของเสี่ยปั้น รับเละ ก็ต้องรอการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 0.25% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

*อาทิตย์  นันทวิทยา เอ็มดีใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  SCB คงต้องเป็นปลื้ม หลังจากโบรกฯ หลายสำนักฯ เชียร์เป็นพิเศษ คาดว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะออกมาดูดีกว่าคู่แข่ง สินเชื่อจะขยายตัวเร่งขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงจำนวนมาก คาดกำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ในช่วง 51,180-51,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 47,612 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลงหลังคลายกังวลเรื่อง NPL ขณะที่สินเชื่อคาดเติบโตดีขึ้น ราคาเป้าหมายให้ 161-185 บาทโน่น

*อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง แจกข่าวดีสำหรับรายย่อย เตรียมจะขายกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ภายใน 2 เดือนนี้ ที่สำคัญผลตอบแทนของกองทุนสูงกว่า 7% งานนี้เน้นให้รายย่อยก่อน กองทุนฯ ใครมีเงินไม่รู้จะไปลงทุนอะไรตอนนี้ก็แบ่งไว้ลงกองทุนนี้ได้เลย

*SQ ภายใต้ ศาศวัต  ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์  นักวิเคราะห์มองแนวโน้มผลประกอบการเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ปี รับรู้ฐานรายได้ของโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4Q16 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเหมืองดีบุกในพม่า ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ได้อีกปีละกว่า 500 ล้านบาท  กำไรทั้งปีในปีนี้ขึ้น 43% เป็น 485 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมงานเหมืองโปแตชที่มีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทอีก ราคาเป้าหมายให้ไว้แถวๆ 6.40 บาท

*ราคาหุ้นลีสซิ่งเริ่มฟื้นตัว  หลังเจอแพนิกหุ้น GL โดยเฉพาะ SAWAD ของธิดา แก้วบุตตา ที่ร่วงหนัก ตามชาวบ้านเขาไปด้วย  แต่นักวิเคราะห์ก็ยังแนะนำ “ซื้อ”  SAWAD และราคาเป้าหมาย  50 บาท  เนื่องจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง   เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส ส่วนคู่แข่งสำคัญ อย่าง MTLS ของเฮียชูชาติ วานนี้ค่อยๆ ฟื้นตัวตามศรีสวัสดิ์ฯมาติดๆ

*กลุ่มสื่อสาร ยังคงแย่ แต่หลายโบรกฯ ก็แนะเข้าซื้อสะสมหุ้นที่ยังขึ้นน้อย (Laggard) และยังจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH)  รวมทั้งหุ้นกำไรโดดเด่นอย่างเช่น JAS ส่วนทรูยังคงหลีกเลี่ยง หลังประสบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

Back to top button