SET บ่ายยืนลบ คัด 5 หุ้นเด่น ปันผลหรู-ผลประกอบการเด่น

SET บ่ายยืนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,540 แนวต้าน 1,554-1,558 จุด คัด 5 หุ้นเด่น ปันผลหรู-ผลประกอบการเด่น นำโดย KBANK KTB TMB KKP และ PTTGC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (10 มี.ค.) ปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ขณะที่ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลง ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตาม และผลประกอบการไตรมาส 4/59 ของบจ.ส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีนัก ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสู่ตลาด ทำให้คาดว่าช่วงบ่ายตลาดน่าจะยังมีแรงขายออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,540 แนวต้าน 1,554-1,558 จุด

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง โดยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดช่วงเช้า เป็นไปตามทิศทางเดียวกันกับตลาดภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสรหัฐฯ เพื่อยืนยันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ในสัปดาห์หน้า รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนดัชนีให้ปรับขึ้น อีกทั้งการประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ออกมาไม่ค่อยดีนัก ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดน่าจะยังมีแรงขายออกมาจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยนักลงทุนได้ให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวถึง 90% พร้อมให้แนวรับ 1,535-1,540 จุด แนวต้าน 1,554-1,558 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มี.ค.)  SET กลุ่มพลังงาน และแรงขาย GL กดดัน SET โดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่อย่าง PTT PTTEP รวมไปถึงแรงขาย GL กดดัน SET ปรับลดลงมาที่เส้นค่าเฉลี่ย 20 สัปดาห์บริเวณ 1,542 จุด ขณะที่กลุ่มธนาคารที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศค่อยๆ ปรับสูงขึ้นปลายปีนี้ แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม แนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB TMB ต่อเนื่องที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวปีนี้ ขณะที่ธนาคารขนาดกลาง แนะนำ “ซื้อ” KKP เป้าหมายพื้นฐาน 75 บาท รับปันผล 4 บาท/หุ้น XD 28 เม.ย.นี้ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 6% และคาดการณ์ปันผลปี 2560 ที่ 9% คาดการณ์สินเชื่อรถยนต์กลับมาขยายตัวดีขึ้นปีนี้

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” PTTGC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 84 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ดีกว่าคาด และคาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งในไตรมาส 1/60 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก Spread ปิโตรฯ โดยเฉพาะ LDPE LLDPE และ Butadiene ที่แข็งแกร่ง 2) การซื้อธุรกิจ Polypropylene จาก PTT และกำลังการผลิต LDPE ทีเพิ่มขึ้น 400K ตัน/ปีในปี 2561 สนับสนุนการเติบดตกำไร 30-14% ปี 2560-61 และ 3) Trade Code มอง “Let profit run” ต่อ ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 73.5 หรือถัดไปที่ 77.25 บาท ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรฯ ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะ LLDPE และ LDPE

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

GL      มูลค่าการซื้อขาย 5,668.21 ล้านบาท ปิดที่  25.75 บาท ลดลง 10.25 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย   726.91 ล้านบาท ปิดที่ 387.00 บาท ลดลง  3.00 บาท

KTB     มูลค่าการซื้อขาย   526.97 ล้านบาท ปิดที่  20.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

TASCO   มูลค่าการซื้อขาย   509.64 ล้านบาท ปิดที่  26.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย   502.42 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

Back to top button