GUNKUL หวังกวาด PPA ในปท.ปีนี้เกิน 100MW
GUNKUL หวังกวาด PPA ในปท.ปีนี้เกิน 100MW เผยอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการพลังงานทดแทนในมาเลเซีย-เวียดนาม
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ภาพรวมในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตได้ 20-30% หรือไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท จากปี 59 คาดมีรายได้ 3,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายของสัดส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของธุรกิจพลังงานในปี 61จะเพิ่มเป็น 80% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนที่ 70% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง และ รับเหมาก่อสร้าง
นอกจากนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลโครงการพลังงานทดแทนในประเทศที่ปีนี้คาดว่าจะมีออกมามากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ ,โครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการ , โครงการ SPP Hybrid Firm, โครงการ VSPP Semi-Firm ,โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ซึ่งบริษัทหวังจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ หรือที่ 10% ของโครงการทั้งหมด
ขณะเดียวกันยังศึกษาลงทุนโครงการพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม ซึ่งในมาเลเซียบริษัท ได้ศึกษาโครงการพลังงานลมซึ่งมีกำลังการผลิตที่ประมูล 300 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้รับงานราว 50-60 เมกะวัตต์ และศึกษาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปิดประมูลกว่า 1,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์
ส่วนการลงทุนที่ประเทศเวียดนาม ขณะนี้ศึกษาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 100 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการลมที่อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะมีใบ PPA จากทั้งในและต่างประเทศรวมเป็น 1,000 เมกะวัตต์ในปี 63 แบ่งเป็นในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% จากปัจจุบันที่ 488 เมกะวัตต์
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันทางการเงิน เพื่อให้ปล่อยสินเชื่อให้กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ในการก่อสร้างโครงการสายส่งไฟฟ้าขนาด 115 KV และ 230 KV มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเข้าไปรับงานดังกล่าว แต่มูลค่างานนั้นขึ้นอยู่กับการปล่อยสินเชื่อของสถาบันทางการเงิน โดยเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มวงเงินการออกหุ้นกู้อีก 3,000 ล้านบาท จากเดิมที่ 6 ,000 ล้านบาท ในวันที่ 21 เม.ย. 60 โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ มูลค่า 3,000-5,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) มูลค่า 3,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้รองรับขยายการลงทุนโครงการพลังงานใหม่ๆ พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนเดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุน ที่ประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ด้วย