ไทยแลนด์แดนลวงตา

บีโอไอเพิ่งใช้งบกลาง 24.6 ล้าน จ้างวิธีพิเศษ CNBC ให้พีอาร์ภาพลักษณ์ไทยแลนด์ 4.0 ว่าเป็นประเทศน่าลงทุนเสียเหลือเกิน เพราะเตรียมความพร้อมทุกด้าน ที่จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

 

บีโอไอเพิ่งใช้งบกลาง 24.6 ล้าน จ้างวิธีพิเศษ CNBC ให้พีอาร์ภาพลักษณ์ไทยแลนด์ 4.0 ว่าเป็นประเทศน่าลงทุนเสียเหลือเกิน เพราะเตรียมความพร้อมทุกด้าน ที่จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ทุ่มเท ส่งคณะผู้แทน 46 คน ไปชี้แจงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ในการประชุมทบทวนการบังคับใช้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

ทุ่มเทเพราะเราส่งผู้แทนไปมากที่สุดใน 6 ประเทศ มากกว่าเซอร์เบีย 33 คน อิตาลี 25 คน บังกลาเทศ 16 คน บอสเนีย 12 คน เติร์กเมนิสถาน 5 คน จนเป็นที่ฮือฮาว่ารัฐบาลไทยใส่ใจปัญหาสิทธิมนุษยชนมากมาก ทั้งที่มาจากรัฐประหาร และทั้งที่เอาเข้าจริง ก็จะได้พูดแค่ไม่กี่คน

ยิ่งกว่านั้น เรายังเตรียมของขวัญผูกโบว์ไปให้ UN อย่างสวยงาม เพราะเมื่อวันศุกร์ ที่ประชุม สนช.ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการบังคับให้หายสาบสูญ 1 ใน 9 อนุสัญญาของ ICCPR ด้วยมติเอกฉันท์ 205 เสียง พร้อมการอภิปรายสนับสนุนอย่างน้ำท่วม เอ๊ย ท่วมท้น จนได้รับเสียงปรบมือจากองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

ขณะที่ กอ.รมน. ก็บังเอิ๊นบังเอิญถอนฟ้อง 3 นักสิทธิมนุษยชน ผู้เผยแพร่รายงานการซ้อมทรมาน 54 กรณีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้พอดี ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกก็ปรบมือสนั่นหวั่นไหวอีกเช่นกัน

เพียงเสียดาย สนช.กลับไม่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ตีกลับมาให้กระทรวงยุติธรรมแก้ไขอีกครั้ง ทั้งที่ถ้าจำกันได้ กฎหมายฉบับนี้ได้รับเสียงแซ่ซ้องกึกก้อง เมื่อผ่านคณะรัฐมนตรีวันที่ 24 พ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากประเทศไทยเพิ่งไปถูกรุมในเวทีทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังเตรียมเรื่องดีๆ ไปตอบโต้ข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น เรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ยกตัวอย่างที่ศาลยกฟ้องวัฒนา เมืองสุข จากการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรัฐบาล หรือเรื่องห้ามชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ยกตัวอย่างที่เคยอนุญาตให้นักศึกษาเดินขบวนจากธรรมศาสตร์ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อ 22 พ.ค.2559

ดีจัง คนไทยเกือบลืมไปแล้ว ว่ามีเรื่องดีๆ อย่างนี้ด้วย เพราะเห็นแต่ข่าววัฒนาโดนเรียกรายงานตัวซ้ำซาก เห็นแต่ข่าวนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ ไผ่ ดาวดิน ถูกจับซ้ำซาก ฐานแจกเอกสารรณรงค์คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ (นี่ก็เพิ่งขอหมายจับวีระ สมความคิด ผิด พ.ร.บ.คอมพ์)

ชัดเจนนะครับ ใครว่ารัฐบาล คสช.ไม่แคร์ฝรั่ง ถึงไม่เอาประชาธิปไตยฝรั่ง ก็ยังอยากให้ฝรั่งยอมรับ ไม่ใช่แค่อยากคบค้ายุโรปอเมริกาด้วยความจำเป็นด้านการค้าการลงทุน แต่ยังอยากมีหน้ามีตามีเกียรติยศศักดิ์ศรีในสังคมโลก จนต้องลงทุนโปรโมตโฆษณา ชี้แจงข้อกล่าวหา และยอมตามข้อเรียกร้องถ้าเป็นอะไรที่ทำได้

เช่นเรื่องอุ้มหายนี่ไม่ต้องห่วง รัฐไม่ได้ทำ (ถ้ามีก็ไม่รู้ใครทำ) เรามีแต่อุ้มขึ้นศาลทหาร หรือศาลพลเรือนไม่ให้ประกัน

เรื่องขำๆ ของประเทศไทยจึงกลายเป็นว่า เราไม่ใช่ประเทศดื้อด้านแบบเกาหลีเหนือ (เรายังร่วมบอยคอตต์เกาหลีเหนือ) เราไม่ใช่ไม่แคร์ใครแบบจีน รัสเซีย อิหร่าน ตรงกันข้าม เราแคร์ แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เราพูดกับชาวโลกนั้น เขามองว่าเวลาทำ กลายเป็นอีกอย่าง

ระวังนะครับ การเป็นเผด็จการ การละเมิดสิทธิมนุษยชน ชาวโลกไม่ยอมรับก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่เชื่อมั่นยิ่งกว่าคือการพูดอย่างทำอย่าง ซึ่งมันสะท้อนความไม่มั่นคงแน่นอนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

Back to top button