AP โตแข็งแกร่ง
ผ่านไปด้วยดีสำหรับผลประกอบการปี 59 ของ AP มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีแรงผลักดันจากกำไรในไตรมาส 4 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีคอนโดฯสร้างเสร็จและเริ่มโอน 5 โครงการโดยมีคอนโดฯภายใต้โครงการร่วมทุนที่เริ่มโอน 2 โครงการในช่วงไตรมาส 4 มูลค่า 4.7 พันล้านบาท
คุณค่าบริษัท
ผ่านไปด้วยดีสำหรับผลประกอบการปี 59 ของ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีแรงผลักดันจากกำไรในไตรมาส 4 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีคอนโดฯสร้างเสร็จและเริ่มโอน 5 โครงการโดยมีคอนโดฯภายใต้โครงการร่วมทุนที่เริ่มโอน 2 โครงการในช่วงไตรมาส 4 มูลค่า 4.7 พันล้านบาท
ทำให้ผลการดำเนินงานงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 บริษัทมีรายได้รวมเพียง 20,447.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 22,398.10 ล้านบาท แต่บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,702.56 ล้านบาท หรือ 0.859 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,623.38 ล้านบาท หรือ 0.834 บาทต่อหุ้น
ถือว่ายังเป็นจุดแข็งของบริษัทที่ยังสามารถรักษาผลประกอบการได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างช่วงที่ผ่านมา!!
ส่วนผลกำไรสุทธิปี 60 คงเติบโตได้อีก โดยนักวิเคราะห์ประมาณการรายได้จากการโอนโครงการราว 2.25 หมื่นล้านบาทเติบโต 15% คาดส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนเติบโต 15% เป็น 426 ล้านบาท ส่งผลให้ประมาณการกำไรอยู่ที่ราว 3.1 พันล้านบาทเติบโต 15% โดยในปีนี้มีคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมโอน 6 โครงการมูลค่ารวม 1.69 หมื่นล้านบาท ยอดขายรอโอน (backlog) ณ 15 ก.พ. ไม่รวมโครงการ JV มีจำนวน 9.6 พันล้านบาท คาดส่วนแบ่งกำไรในปีนี้จะเติบโตจากปีที่แล้ว
ขณะที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ปี 60 มีแนวโน้มแผ่วลงจากไตรมาส 4 ปี 59 ที่บันทึกสถิติสูงสุดรายไตรมาสในปี 59 แต่น่าจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 59 จากฐานที่ต่ำเพียง 455 ล้านบาทจากการโอนคอนโดฯต่อเนื่องรวม 5 โครงการ และน่าจะสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายเช่นเคยจากการเริ่มโอนคอนโดฯรวม 3 โครงการในไตรมาสสุดท้ายเป็นคอนโดฯของบริษัท 2 โครงการได้แก่ Vittorio และ Aspire เอราวัณ เฟส 1 และคอนโดฯร่วมทุน 1 โครงการได้แก่ Rhythm รางน้ำ (มียอดจอง 100%)
อีกทั้งปีที่ผ่านมามีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายเลื่อนมาเปิดในปีนี้ทำให้มูลค่าโครงการใหม่ในปี 60 เติบโต 35% โดยบริษัทมีแผนเปิดใหม่ 20 โครงการเป็นแนวราบ 17 โครงการมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาทและคอนโดฯร่วมทุน 3 โครงการครึ่งแรกของปี 60 จะเปิดโครงการไลฟ์ วัน ไวร์เลส มูลค่า 6.4 พันล้านบาท และโครงการไลฟ์ ลาดพร้าว มูลค่า 7.6 พันล้านบาท อีก 1 โครงการเปิดในครึ่งหลังของปี 60 ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขาย presale ให้เติบโตดีและใกล้เคียงตามเป้าหมายของผู้บริหารที่ราว 2.6 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่นักวิเคราะห์บล.โกลเบล็ก มองว่าปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังดีโดยมีแรงหนุนจากโครงการคอนโดฯร่วมทุนกับกลุ่มกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท ที่ช่วยต่อยอดในด้านเงินทุนในการพัฒนาโครงการใหม่และได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโครงการที่เริ่มโอนแล้ว ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 9 เท่าได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 9 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด ขณะที่ yield อยู่ในระดับที่น่าสนใจราว 5-6% คงแนะนำ “ซื้อ”
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน 670,047,561 หุ้น 21.30%
2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 413,100,520 หุ้น 13.13%
3.NORTRUST NOMINEES LIMITED-THE NORTHERN TRUST COMPANY RE IEDU UCITS CLIENTS 10 PCT ACCOUNT 184,501,646 หุ้น 5.86%
4.นายพิเชษฐ วิภวศุภกร 110,209,666 หุ้น 3.50%
5.STATE STREET BANK EUROPE LIMITED 90,300,676 หุ้น 2.87%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการ
2.นาย อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
3.นาย อนุพงษ์ อัศวโภคินรอง ประธานกรรมการ
4.น.ส. กิตติยา พงศ์ปูชนีย์กุล กรรมการ5.นาย วิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ กรรมการ