V-shape

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

 

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอมาในมุมของนักเทคนิค เพื่ออัพเดตสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยให้ทุกท่านรู้ว่า กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังกองทุนตัวแสบเข้ามาซื้อหุ้นอย่างหนักหน่วงไปกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นกว่า 16 จุด พร้อมกับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,550 จุดอีกครั้ง และเมื่อถึงวันศุกร์ก็ขยับขึ้นมาปิดที่  1,560.98 จุด บวกไปอีก 3.93 จุด ด้วยมูลค่า 4.69 หมื่นล้านบาท มันมีนัยสำคัญกับการลงทุนเหมือนกันนะคะ

*เนื่องจากกองทุนตัวแสบยังเป็นคนที่เข้าซื้อหุ้นต่อเนื่องอีกวัน ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวหวนกลับเข้ามาเก็บหุ้นอีกครั้ง จึงทำให้ภาพรวมของการลงทุนดูดีขึ้นพอสมควร พร้อมกับปรากฏรูป V-shape ขึ้นมาเด่นหราแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องดีมากกว่าเรื่องร้าย เพราะมันหมายความว่า ดัชนีกำลังจะขึ้นไปทดสอบยอดแรกที่บริเวณ 1,575 จุด และพร้อมจะขึ้นไปทดสอบยอดสองที่บริเวณ 1,580 จุดนะจะบอกให้

*จังหวะนี้ถึงเป็นช็อตที่นักลงทุนสามารถกระโจนเข้าใส่ได้เต็มที่ เพราะเมื่อดูตามเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้แบบละเอียด มันไม่มีเรื่องไหนที่คอขาดบาดตายสักเรื่อง “โมนิก้า” ถึงเห็นแรงซื้อไหลกลับเข้ามาในหุ้นบางตัวเป็นระยะ พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้ามาเล่นเก็งกำไรอีกรอบ มันเป็นช็อตของการตามไปดูในหุ้นบางตัวที่กำลังกลายเป็นดาวเด่นเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ BEM ทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้น 5% ด้วยมูลค่า 1.63 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการเล่นรอบใหม่ หลังจากหุ้นนอนสลบเหมือดแถว 7 บาทเป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง ซึ่งทำให้เดี๊ยนต้องหันไปมองยอดแรกแถว 7.70 บาท ก่อนจะขยับเป้าขึ้นไปเป็น 8 บาท จึงเป็นจังหวะของการตามไปดูอีกเช่นกัน..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ TISCO เทคตัวไม่ผ่านแนวต้าน 70 บาทมาแล้วครั้งหนึ่ง มาเที่ยวนี้ขอทดสอบแนวต้าน 70 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงมองเป็นเกมที่นักเล่นต้องขยับจังหวะตามให้ทัน หลังจากหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 69.50 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 740 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า วันนี้น่าจะมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้นได้ หรือทำไม่สำเร็จ ก็กลับไปตั้งหลักแถว 65 บาทอีกครั้งก็เท่านั้นเอง

*เม้าท์ถึงเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาทีไร  “โมนิก้า” ก็ขอพูดถึงนักเล่นในตำนานอย่าง เสี่ย ส. ซึ่งมีการจับโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้น AJD อีกครั้งแบบนี้ มันเหมือนเป็นการจงใจทุบหุ้นเพื่ออะไรสักอย่าง? เพราะถ้าย้อนกลับไปดูข้อมูลเก่าๆ ตามที่แมงลือเม้าท์กันว่า เสี่ยคนดังพัวพันกับหุ้นหลายตัวในตลาดหลักทรัพย์ตลอดปี 57 และทำให้หุ้นที่ถูกร่ำลือพุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง จนเรียกได้ว่า ช่วงนั้นเป็นยุครุ่งเรืองของเสี่ยอย่างแท้จริง ยิ่งมีข่าวลือไปยุ่งกับหุ้นตัวไหนเป็น ชิตังเม โป้ง รวย! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตอนนี้เหรอค่ะ

*ที่สำคัญคือคล้อยหลังจากนั้นได้ไม่นาน เสี่ย ย. ก็เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยการซื้อหุ้น PP  และช่วยกันผลักดันตู้เติมเงินร่วมกับ “เฮียอมร” จนติดลมบนถึงทุกวันนี้ ซึ่งทำให้บริษัทแสดงตัวเลขกำไรในปี 59 เป็นจำนวน 355 ล้านบาท  “โมนิก้า” ถึงไม่รู้ว่า มันเกี่ยวกับวัดจานบินตรงไหน? แถมเสี่ยใหญ่คนล่าสุดก็ออกมายืนยันว่า ถือหุ้นครบ!  แต่หุ้นดันรูดลงมาปิด 1.49 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 11.80% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท สงสัยหุ้นจะลงเกินเหตุแล้วกระมั้ง!

*อีกหนึ่งรายที่ยังร้อนแรงเกินเหตุ “โมนิก้า” คงต้องย้อนกลับมาดู GL หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 19 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 9.20% ด้วยมูลค่า 2.20 พันล้านบาท มันเป็นการเด้งขึ้นท่ามกลาง “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก” เดี๊ยนถึงสงสัยกลุ่มคนที่เข้ามาเล่นอาศัยช่องโหว่ของเนื้อหาข่าวสารที่ออกมาแบบกระท่อนกระแท่น จึงกลายเป็นหุ้นอันตรายสำหรับพวกอ่อนพรรษานะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องประหลาดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดูหุ้น TLGF ทะยานขึ้นมาติดในกระดาน most active หน้าตาเฉย เพราะก่อนหน้านี้หายเงียบไปจากหน้ากระดานหุ้นเป็นเวลานานพอสมควร ล่าสุดเห็นหุ้นปิดที่ 17.50 บาท ด้วยมูลค่า 760 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่สังคมชาวหุ้นต้องไปคิดพิจารณากันเอาเองว่า เที่ยวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เหมือนเที่ยวก่อนหรือเปล่า?

*ส่วนหุ้นที่มีวงรอบเหมือนเดิมค่อนข้างชัดเจน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นทีเด็ดอย่าง BIG หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.10 บาท มันมีลักษณะการเคลื่อนตัวแบบ V-shape ค่อนข้างเด่นชัด บวกกับในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ก็เคลื่อนไหวในรูปแบบดังกล่าวมาตลอด จึงเชื่อว่าหุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 6 บาทอีกรอบ ส่วนจะจริงหรือไม่?..ดูกันต่อไปนะคะ