หุ้นยุโรปปิดวานนี้พุ่งรับภาคบริการยูโรโซนแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขานรับรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของยูโรโซนขยายตัวในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขานรับรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของยูโรโซนขยายตัวในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 404.34 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,151.19 จุด เพิ่มขึ้น 77.05 จุด หรือ +1.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,123.52 จุด พุ่งขึ้น 156.13 จุด หรือ +1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.77 จุด เพิ่มขึ้น 128.31 จุด หรือ +1.88%

ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นหลังจากผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 54.2 จาก 53.7 ในเดือนก.พ. โดยกิจกรรมทางธุรกิจพุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางการปรับตัวดีขึ้นของภาคบริการเยอรมนีและอิตาลี ส่วนแนวโน้มสำหรับภาคบริการของยูโรโซนยังสดใสในเดือนมี.ค. เนื่องจากมุมมองบวกของภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 46 เดือน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานเฟดสาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี กว่าที่อัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานจะกลับสู่ระดับปกติ ดังนั้น เฟดจึงน่าจะสามารถรอต่อไปจนถึงปีหน้าสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นายโคเชอร์ลาโคตาสนับสนุนให้เฟดรอจนกว่าจะถึงครึ่งปีหลังของปีหน้าเพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย และค่อยๆปรับขึ้นทีละน้อยจนแตะระดับ 2% ในปลายปี 2560 หลังจากที่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นซีดริลล์ ทะยานขึ้น 15% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นเกล็นคอร์ ปรับขึ้น 3.5% และหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.9% อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มสายการบิน โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส ร่วงลง 1.2% หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับลง 1.9%

Back to top button