AH คาดปี 60 กำไรโต 20% ยอดขายโต 5% เล็งขยายการลงทุนตปท.
AH คาดปี 60 กำไรโต 20% จากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน, ยอดขายโต 5% ตามการขยายตัวของอุตฯยานยนต์ – เล็งขยายการลงทุนในตปท. หวังสร้างการเติบโตให้บริษัทในอนาคต
นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-20% จากระดับ 543.09 ล้านบาทในปีก่อน จากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะคาดยอดขายปีนี้เติบโตได้ราว 5% จากปีก่อนอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประเมินยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เพิ่มขึ้นมาที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน และที่เหลือจะเป็นการส่งออก หลังโครงการรถยนต์คันแรกครบกำหนดเงื่อนไขห้ามเปลี่ยนมือภายใน 5 ปี ส่งผลทำให้มีความต้องการซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น ประกอบกับภาครัฐให้การสนับสนุนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) เฟส 2 ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในปีนี้ และคาดว่าจะมียอดขายราว 1 แสนคันในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทยังมองโอกาสการลงทุนไปทั่วโลก จากปัจจุบันมีฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อยู่ในประเทศไทย มาเลเซีย และจีนแล้ว ขณะที่มีความสนใจในประเทศอินเดีย ยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เพิ่มเติม ซึ่งรูปแบบของการลงทุนมีความเป็นไปได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุน การเข้าซื้อกิจการ และการเข้าไปลงทุนเอง คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ราว 1 ประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในอนาคต และน่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีหน้า จากปีก่อนมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 27%
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.4 เท่า และมีนโยบายไม่ให้เกิน 1 เท่า ซึ่งยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้อีกประมาณ 3-4 พันล้านบาท
“ปี 59 มาเรามีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นกว่า 70% จากปี 58 จากการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในปีนี้เราก็คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะดีกว่าปีก่อน ซึ่งกำไรสุทธิก็น่าจะเติบโตอย่างน้อยราว 10-20% และยอดขายน่าจะโตราว 5% เป็นไปตามอุตสาหกรรมฯที่เติบโตขึ้น ประกอบกับเรายังมองการขยายตลาดเพิ่มเติมอีก โดยมองการลงทุนไปทั่วโลกจากที่ผ่านมามองเพียงในเอเชียเท่านั้น คาดว่าปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจนได้ และน่าจะส่งผลดีต่อสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า” นายเย็บ ซู ชวน กล่าว