ไม่ไหวก็ถอย
*หลายคนอาจมอง “โมนิก้า” เป็นผู้หญิงปากร้ายคนหนึ่งในแวดวงตลาดหุ้น แต่ทั้งหมดเกิดจากความปรารถนาดีที่มีให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ในตลาดหุ้น เพราะสิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็น ล้วนมีสาแหรกมาจากความไม่ชัดเจน จึงต้องพูดอะไรแบบตรงไปตรงมาเพื่อทำให้สังคมได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อให้นักลงทุนบางกลุ่มลากไปออกของ เพราะที่ผ่านมาก็โดนล่อกันแบบนี้ประจำเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลายคนอาจมอง “โมนิก้า” เป็นผู้หญิงปากร้ายคนหนึ่งในแวดวงตลาดหุ้น แต่ทั้งหมดเกิดจากความปรารถนาดีที่มีให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ในตลาดหุ้น เพราะสิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็น ล้วนมีสาแหรกมาจากความไม่ชัดเจน จึงต้องพูดอะไรแบบตรงไปตรงมาเพื่อทำให้สังคมได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อให้นักลงทุนบางกลุ่มลากไปออกของ เพราะที่ผ่านมาก็โดนล่อกันแบบนี้ประจำเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงอย่าตั้งตนอยู่ในความประมาท เพราะรูปแบบการขึ้นของหุ้นในเที่ยวนี้เป็นแบบ “มาเร็ว เคลมเร็ว” ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน ขนาดหุ้นบางตัวทะยานขึ้นอย่างช้าๆ เผลอแป๊บเดียวไหลลงมากองอยู่ที่ฐานเดิมเสียแล้ว “โมนิก้า” ถึงขอเตือนนักเล่นอีกครั้งว่า หากหุ้นขึ้นไม่ไหว ก็ถอยมาตั้งหลัก ไม่มีความจำเป็นต้องดันทุรังอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้เขาวัดกันที่ความไวของแต่ละคนนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับอาการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นของดัชนีตลอดทั้งสัปดาห์ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ใกล้จะถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเต็มที ยิ่งเห็นดัชนีดันตัวเองขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,573.25 จุด ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,568.72 จุด บวกไปแค่ 2.06 จุด ด้วยมูลค่า 3.83 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ยังมีแรงเทขายรออยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่ดัชนีจะผ่านขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,580 จุด มันคงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอกค่ะ
*อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่จบง่ายคงหนีไม่พ้นหุ้นเจ้าปัญหา GL หลังพี่สาวที่น่ารักอย่าง “เจ๊อู้” ออกมาปฏิเสธอย่างทันควันว่า ไม่เคยการันตรีหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นพื้นฐานดี และข่าวที่พูดกันไปเรื่อยเปื่อยในทำนองตัวพี่เป็นคนให้ข่าวนั้น ขอแจ้งให้ทุกคนทราบว่า น่าจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน “โมนิก้า” จึงขันอาสาเป็นคนช่วยกระจายข่าวให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ได้รับรู้กันถ้วนหน้านะจ๊ะ
*เนื่องจากทันทีที่มีข่าวดังกล่าวเล็ดลอดออกมา ราคาหุ้นก็พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 21.10 บาท บวกไป 2.80 บาท หรือขึ้นไป 15.30% ด้วยมูลค่า 2.42 พันล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันเป็นการลากหุ้นเพื่อทำให้ทุกคนเชื่อตามข่าวที่ถูกปล่อยออกมา เพราะถ้าย้อนกลับไปดูคำพูดของพี่สาวอีกคนอย่าง “เจ๊ตุ๊” ก็ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนค่อนข้างชัดว่า “ระวัง” เพราะกำลังตรวจสอบข้อมูลบางอย่างนะจะบอกให้
*สถานการณ์ดังกล่าวเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นแม่ลูก TIPCO กับ TASCO หลังโดนมือดีถล่มเทขายอย่างหนักหน่วง จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 16 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 6.40% ด้วยมูลค่า 480 ล้านบาท ขณะที่รายหลังรูดลงมาปิดที่ 25.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่า 1.86 พันล้านบาท มันเป็นทิศทางที่โค้งตัวลงอย่างชัดเจนแบบนี้..มันจบแล้วนาย..อิอิอิ
*ส่วนในรายของ UNIQ กำลังอยู่ในช่วง “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” จึงกลายเป็นหุ้นที่ทุกคนเบือนหน้าหนี วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ที่ 17.60 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท แถมเมื่อไล่เรียงเรื่องน้ำปูนหล่นใส่รถชาวบ้าน โครงการรถไฟรางคู่เลื่อนออกไปก่อน เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้เล่นหลักรีบปรับหุ้นตัวนี้ออกจากพอร์ตในทันที
*เม้าท์ถึงเรื่องหดหู่ใจมากพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูเรื่องเสียวของคนชอบเสียวสักหน่อย หลังเห็นหุ้นเก็งกำไรดาวรุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.41 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่า 63 ล้านบาท มันเป็นการเตะเปิดเกมเพื่อดันหุ้นขึ้นไปแถว 1.60 บาทเหมือนรอบที่ผ่านมาแน่ๆ จังหวะนี้ถึงเป็นช็อตของการโหนกระแสอย่างแท้จริง และใครที่รู้ตัวว่า ใจไม่ด้านพอ..อุ๊ย..ใจไม่แข็งพอ ก็หลบเข้าฉากไปเลยค่ะ
*เหมือนกับในรายของ SYNEX ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 10.30 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่า 113 ล้านบาท มันเป็นเกมดันราคารอบใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะถ้าดูตามท้องเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ การเล่นเที่ยวนี้น่าจะมีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 12 บาท บวกกับหุ้นกำลังผงกหัวขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน เดี๊ยนถือเป็นไฟต์บังคับที่นักเล่นต้องเล่นก็เท่านั้นเอง
*ไหนก็มาสายฮาร์ดคอร์กันทั้งที “โมนิก้า” คงต้องชำเลืองสายตาไปดู CCN เพื่อเกาะกระแสการเล่นแบบบ้าระห่ำกับเขาสักหน่อย เพราะไม่น่าเชื่อว่า หุ้นตัวนี้อยู่ในทิศทางขาขึ้นร่วมปี แถมเมื่อเหลือบดูผลประกอบการในแต่ละปีก็งั้นๆ อีกทั้งค่า P/E ก็พุ่งขึ้นไปถึง 112 เท่า บวกกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้นออกมารวม 50% หุ้นดันวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.84 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 6.60% มันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนคิดกันเองได้เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นของ AMATA ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 17 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 340 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเริ่มคำนวณผลได้ผลเสีย เพราะการทะยานขึ้นเที่ยวนี้เป็นการฉีกตัวขึ้นมาวันแรก แถมปัจจัยรอบด้านไม่ค่อยเอื้อสักเท่าไหร่ จึงกลายเป็นโจทย์หินที่นักเล่นต้องหาทางแก้กันเอาเอง..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ