บลจ.กรุงศรี ขาย 2 กองทุน 22-29 มี.ค.นี้

บลจ.กรุงศรี เปิด 2 กองทุน "KF-HUSINDX"-"KF-HJPINDX" เพิ่ม 2 ทางเลือกการลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำของสหรัฐและตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขาย 22-29 มี.ค.นี้


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี เพิ่ม 2 ทางเลือกการลงทุนในตลาดหุ้นชั้นนำระดับโลกอย่างตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นผ่านกองทุนอีทีเอฟกับกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HUSINDX) และกองทุนเปิดกรุงศรี เจแปนอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HJPINDX) ตอบรับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายด้านของทั้งสองตลาด เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 22 – 29 มีนาคม 2560

โดยน.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรีเปิดเผยว่า บลจ.กรุงศรี ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นญี่ปุ่น 2 ตลาดสำคัญที่น่าสนใจที่สุดเพราะมีปัจจัยสนับสนุนในหลายด้าน ทั้งนี้ ในปี 2560 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องนำโดยสหรัฐอเมริกา โดยคาดการณ์ว่าในปี 2560 เศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัว 2.3% จาก 1.6% ในปีก่อน และในช่วงเดือนมิถุนายนน่าจะเริ่มเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแรกของโดนัลด์ ทรัมป์

ส่วนของการปฎิรูปโครงสร้างภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% เป็น 15% ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่ใช้ในการหาเสียงน่าจะมีการดำเนินการภายในปีนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีนิติบุคคลของสหรัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นเวลานาน ดังนั้นการปรับลดภาษีดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรสุทธิของภาคธุรกิจ รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ แม้ว่า Fed จะส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งแต่ทีมวิจัยกรุงศรีเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะเป็นปัจจัยกดดันการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จากนโยบายต่างๆดังกล่าวถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มของผลประกอบการที่ดีขึ้น การเติบโตของกำไรสุทธิปรับตัวเป็นบวกครั้งแรกในไตรมาส3/2559 และมีแนวโน้มเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องในปี 2560 ระดับราคาหุ้นยังน่าสนใจโดยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต และในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำตลาดหุ้นมักมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีความน่าสนใจมากขึ้น

โดยล่าสุด บลจ.กรุงศรี จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HUSINDX) เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้สามารถเข้าถึงบริษัท 500 อันดับแรกของสหรัฐได้ในกองทุนเดียว ทั้งนี้ กองทุนKF-HUSINDX มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80.00 ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 : เสี่ยงสูง และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

ด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงมีการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 คาดกาณ์ว่าในปี 2560 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเติบโตประมาณ 0.9% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินการใช้จ่ายของภาครัฐ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น การฟื้นตัวของภาคการส่งออก รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินเยนที่ส่งผลบวกต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนและตลาดหุ้น

อีกทั้ง ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ระดับราคาหุ้นในปัจจุบันยังคงไม่แพงและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และราคาหุ้นยังไม่สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาด รวมทั้งสถานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายไตรมาส และระดับหนี้สินของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น การควบคุมค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลต่อระดับกำไรสุทธิที่ดีขึ้น

ทั้งนี้จากความน่าสนใจของตลาดหุ้นญี่ปุ่นดังกล่าว บลจ.กรุงศรี จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเจแปนอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์(KF-HJPINDX) ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็น 1 ในกองทุนดัชนี Nikkei 225 ETF ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น* โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80.00 ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 : เสี่ยงสูง และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่า กองทุน KF-HUSINDX จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับใกล้เคียงกับดัชนี S&P 500 ในส่วนของกองทุน KF-HJPINDX เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Nikkei 225 ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อาจพิจารณาจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนมาลงทุนในกองทุนดังกล่าว เพื่อบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ” น.ส.ศิริพร กล่าว

Back to top button