TNP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ตามสาขาเพิ่ม-สยายปีกออกนอกเชียงราย
TNP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ตามสาขาเพิ่ม-สยายปีกออกนอกเชียงราย
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตราว 10-15% จากปีก่อนทำได้ 1,448 ล้านบาท จากการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขา 15 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 19 สาขา โดยตั้งงบลงทุนไว้าว 60 ล้านบาท
สำหรับสาขาใหม่แห่งแรกของของธนพิริยะในปีนี้จะอยู่ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย.นี้ และมีแผนขยายสาขาออกไปนอกพื้นที่ จ.เชียงรายเป็นครั้งแรก โดยจะเปิดสาขาใน จ.พะเยา จำนวน 2 สาขา ซึ่งใน อ.เมือง จะเป็นสาขาขนาดเล็ก คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/60 และที่ อ.เชียงคำ เป็นสาขาขนาดใหญ่ คาดเปิดได้ในช่วงไตรมาส 3/60
พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณทำเลสำหรับเปิดสาขาที่ 4 ในปีนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 4/60 ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่สำรองไว้แล้ว
ขณะที่ในปี 61 บริษัทฯมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา ในจ.เชียงราย และจ.ใกล้เคียง โดยมีที่ดินสำหรับใช้ในการเปิดสาขาแล้ว 2 แห่ง ซึ่งในจ.เชียงใหม่ บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะขยายเข้าไป เนื่องจากต้องมีการพัฒนาคลังสินค้าให้ครอบคลุมก่อน โดยตั้งเป้าจะมีสาขาให้ครบทั้งสิ้น 50 สาขา ในปี 66
“บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 10-15% พร้อมเดินหน้าขยายสาขาอีก 4 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาจะมีพื้นที่ระหว่าง 220-900 ตารางเมตร โดยมองโอกาสจากจ.เชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการค้าชายแดนระหว่างประเทศค่อนข้างคึกคัก มีพื้นที่ติดกับ เมียนมา สปป.ลาว และจีนตอนใต้ โดยสินค้าไทยเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด
รวมทั้ง จ.เชียงราย ยังอยู่ระหว่างการจัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3 อำเภอติดชายแดน คือ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ ทำให้ธนพิริยะมองหากลยุทธ์การเติบโตในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น จึงปรับปรุงสาขาที่ อ.แม่สาย จากเดิมเป็นร้านขนาดเล็กให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น และเพิ่มคลังสินค้าเพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าที่จำหน่าย และสามารถสต็อคสินค้ารองรับลูกค้าชายแดนที่เข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง”นายธวัชชัย กล่าว
ส่วนการขยายสาขาไปยัง จ.พะเยา นับเป็นการออกนอก จ.เชียงรายเป็นครั้งแรก เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าทำเลที่ตั้งดังกล่าวมีศักยภาพ และถือว่าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับ จ.เชียงรายที่สุด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ากลุ่มค้าส่งในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว จึงเป็นอีกกลยุทธ์ในการขยายร้านค้าปลีกของบริษัทไปในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น และมั่นใจว่าการเปิดสาขาแรกใน จ.พะเยา จะประสบความสำเร็จ
สำหรับโครงการตั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่บนเนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดใช้บริการได้ในเดือนเม.ย.นี้ จากปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจรับการส่งมอบงานจากผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลให้การกระจายสินค้าของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับสาขาได้ทั้งหมดถึง 50 สาขา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าคลังสินค้าเดิมมาก และระบบการจัดการที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านการขนส่งและบุคคลากร
แต่ในขณะเดียวกันบริษัทฯจะมีภาระในการรับรู้ค่าเสื่อมคลังสินค้าเข้ามาทั้งหมด 100 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ค่าเสื่อมในปีนี้ในจำนวน 7 ล้านบาท ทำให้อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับทรงตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 3.82%
สำหรับภาพรวมของการจับจ่ายใช้สอยในช่วงที่ผ่านมา มองว่าในช่วง 2 เดือนแรกยอดขายต่อสาขาเดิมยังคงอยู่ในระดับที่ทรงตัว จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในจ.เชียงราย ยังไม่คึกคักมากนัก แต่เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีการใช้จ่ายขปงประชาชนน่าจะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ ตามการลงทุนภาครัฐที่เริ่มออกมามากขึ้น และจำนวนสาขาของธนพิริยะที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มค้าปลีกอยู่ที่ 81% และค้าส่ง 19% ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการผลิตสินค้าแบรนด์ของตัวเอง (House brand) หรือผลิตสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche market) ที่กำลังได้รับความนิยม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะมีการพิจารณาแผนดังกล่าวเมื่อมียอดขายรวมที่ระดับ 5,000 ล้านบาท