ทริกเกอร์ ฟันด์ลูบคมตลาดทุน

เป็นพระเอกในช่วงที่หุ้นลง และเป็นผู้ร้ายในช่วงที่หุ้นขึ้นไปซะแล้วสำหรับทริกเกอร์ ฟันด์


ธนะชัย ณ นคร

 

เป็นพระเอกในช่วงที่หุ้นลง และเป็นผู้ร้ายในช่วงที่หุ้นขึ้นไปซะแล้วสำหรับทริกเกอร์ ฟันด์

มีข้อมูลมาว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2558 บรรดาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ต่างออกกองทุนประเภทนี้มาราวๆ 12-13 กองทุน

มูลค่ากองทุนรวมกันกว่า 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท

ทั้งหมดถูกใส่เข้าไปในตลาดหุ้นหมดแล้ว ในช่วงดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,500 จุด

หรืออาจต่ำกว่านั้นเล็กน้อย

เป้าหมายผลตอบแทนของทริกเกอร์ ฟันด์ แต่ละกองทุนแตกต่างกันครับ

บางกองทุนตั้งแบบน่ารักๆ

หากตัวเลขวิ่งไปถึง 3% ก็ปิดกองทุนแล้ว นำเงินมาคืนให้กับผู้ลงทุน

บางกองทุนก็หวังมากหน่อย ตั้งเป้าหมายระดับ 6% หรือมากกว่านี้ก็ไปถึง 8% ก็มีบ้างในบางกองทุน

ส่วนระยะเวลานั้น จะมีการกำหนดให้สอดคล้องกับตัวเลขเป้าหมายผลตอบแทนกันไป เช่น ทาร์เก็ต 8% ใน 8 เดือน หรือ 6% ใน 6 เดือน

หลายกองทุนสามารถปิดกองทุนได้ก่อนกำหนด หากผลตอบแทนได้ตามทาร์เก็ตที่ตั้งไว้

หุ้นส่วนใหญ่ที่ทริกเกอร์ฟันด์ เข้าไปลงทุน จำได้ว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยเขียนไว้ว่าจะอยู่ในกลุ่มบลูชิพ รวมถึงหุ้นขนาดกลาง และมีการเติบโตสวนกับเศรษฐกิจและดัชนีหุ้นไทย

หากดูจากดัชนีในช่วงที่ลงไปแถวๆ 1,495-1,500 จุด

และผ่านมาถึงวันนี้

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.8-3.3%

ทว่าก็ยังมีหุ้นหลายตัวที่ราคาวิ่งขึ้นมามากกว่าการเติบโตของดัชนี

เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้นักวิเคราะห์ต่างออกมาบอกว่า ให้ระวังการขายของกองทุนทริกกอร์ ฟันด์ กันซักหน่อย

เพราะจากการสำรวจตรวจดู น่าจะมีบ้างบางกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์ ที่ปั้นผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายแล้ว และจะเริ่มทยอยขายทำกำไรออกมา

วานนี้ นักลงทุนสถาบันขายออก 1,259 ล้านบาท

ส่วนก่อนหน้านี้ ได้ซื้อมาหลายวันติดต่อกัน และได้มองกันว่าน่าจะเป็นแรงซื้อจากทริกเกอร์ ฟันด์

ใครที่กำลังมองว่า ดัชนีเป็นขาขึ้น ก็ต้องระวังกันหน่อย

ทริกเกอร์ ฟันด์ จะว่าไปแล้ว ก็เป็นทั้งพระเอก และผู้ร้ายได้เลยล่ะเห็นไหม

หากช่วงที่หุ้นตกมาก ก็จะได้กองทุนประเภทนี้ เข้ามาช่วยอุ้มไว้ ทำให้ดัชนีไม่รูดลงไปลึกอย่างที่นักวิเคราะห์มีการคาดหมายกันไว้

หุ้นส่วนใหญ่ที่ทริกเกอร์ ฟันด์ ซื้อ ก็จะมีส่วนช่วยในการดันดัชนีพอสมควร

และแน่นอนว่า เมื่อเขาทำกำไร และทิ้งหุ้นเหล่านั้นออกมา ก็จะมีส่วนช่วยในการกดดัชนีได้เช่นกัน

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ดัชนีหุ้นไทย อาจไม่ได้ปรับขึ้นไปแรงได้มากนัก หรือมากไปกว่านี้ เพราะจะมีแรงขายจากทริกเกอร์ ฟันด์ เข้ามาต่อเนื่อง

ประกอบกับแรงซื้อใหม่ๆ ยังไม่ได้มีเข้ามาในตลาด

ด้านนักลงทุนต่างชาติ ก็ซื้อขายสลับกันไป เอาแน่นอนไม่ได้

นักวิเคราะห์ก็เลยมองว่า ดัชนีก็คงแกว่งตัวในกรอบแค่เนี่ยแหละ หรือหากลงไปถึงกว่านี้ พวกทริกเกอร์ฟันด์ ก็จะเข้ามาใหม่ แล้วก็ขายกันใหม่ วนเวียน หรือเหมือนเดินวนรอบอนุสาวรีย์กันเลย

อาทิตย์หน้า หลังสงกรานต์ หุ้นในกลุ่มธนาคารบางตัวแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2558 กันออกมา

หรืออย่างเร็วสุด วันที่ 10 เม.ย.นี้อาจได้เห็นจากบางแห่ง เช่น TISCO

เพราะปกติ แบงก์แห่งนี้จะแจ้งผลประกอบการรายไตรมาสในช่วงวันที่ 12-13 ของเดือนถัดจากสิ้นไตรมาสนั้นๆ

ถัดมาก็อาจจะเป็นแบงก์ทีเอ็มบี

พักหลัง หลังโชว์ฟอร์มสวย เห็นคีย์ตัวเลขได้เร็วมากครับ

หุ้นในกลุ่มธนาคาร จึงเป็นกลุ่มที่โบรกฯ แนะนำให้เข้าซื้อมาแล้วก่อนหน้านี้ 1-2 อาทิตย์ ซึ่งจะเห็นได้จาก KBANK-SCB รวมถึง KTB ราคาหุ้นขยับขึ้นมาโดยตลอด

และหุ้นบางตัวในกลุ่มธนาคารนี้ ก็เป็นเป้าเหมายของทริกกอร์ ฟันด์ ด้วย

หลังจากประกาศผลการดำเนินงานกันออกมาแล้ว รอบนี้อาจมีแรงขายกันมาพอสมควร

ทริกเกอร์ ฟันด์ ไม่รู้ว่าเป็นพระเอกหรือผู้ร้ายกันแน่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button