บลจ.กรุงศรี ขาย KFFIF6M18 ถึง 3 เม.ย.นี้
บลจ.กรุงศรี เปิดขายกองตราสารหนี้ตปท. KFFIF6M18 อายุ 6 เดือน ในวันที่ 28 มี.ค.-3 เม.ย.ชูผลตอบแทน 1.55% ต่อปี
น.ส.ศิรพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ KFFIF6M18 อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-3 เม.ย.60 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 1.55% ต่อปี
โดยกองทุน KFFIF6M18 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีระยะเวลาลงทุน 6 เดือน เช่น เงินฝากธนาคาร First Gulf Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 19% ประมาณการผลตอบแทน 1.62% เงินฝากธนาคาร Bank of China (BOC) (จีน) สัดส่วนการลงทุน 19% ประมาณการผลตอบแทน 1.72% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (UNB) (สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 19% ประมาณการผลตอบแทน 1.75%
ขณะที่เงินฝากธนาคาร Al Khaliji Bank (การ์ต้า) สัดส่วนการลงทุน 12% ประมาณการผลตอบแทน 1.78% เงินฝากธนาคาร Commercial Bank of Qatar (CBQ) (การ์ต้า) สัดส่วนการลงทุน 12% ประมาณการผลตอบแทน 1.65% และเงินฝากธนาคาร China Construction Bank (CCB) (จีน) สัดส่วนการลงทุน 19% ประมาณการผลตอบแทน 1.70% ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4 : เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.55% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.1605% ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป
โดยบริษัทอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
“สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนแปลง 0.00 – 0.07% โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวมีความแตกต่างกันน้อยลง ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยจำนองได้ปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่ช่วงหลังการเลือกตั้ง และขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากตลาดคาดว่านโยบายการคลังจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดีขึ้น และส่งผลให้เฟดปรับดอกเบี้ยขึ้น ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยแกว่งตัว 0.00 – 0.02% โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางปรับตัวลดลงมากกว่าช่วงอื่นๆ” น.ส.ศิริพร กล่าว