SET บ่ายแกว่งลบ โบรกฯ ชู 2 หุ้นน่าเก็บก่อนเทศกาลสงกรานต์
SET บ่ายแกว่งลบ โบรกฯ ชู 2 หุ้นน่าเก็บก่อนเทศกาลสงกรานต์ ให้แนวรับ 1,575 แนวต้าน 1,585 จุด โบรกฯ ชู 2 หุ้นน่าเก็บก่อนเทศกาลสงกรานต์ นำโดย EASON และ MAJOR
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (7 เม.ย.) ปรับตัวลงเช่นเดียวกับต่างประเทศที่ตลาดภูมิภาค-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สต่างปรับตัวลงตอบรับความกังวลจากสหรัฐฯยิงจรวดถล่มซีเรีย นอกจากนี้หุ้นใหญ่หลายตัวขึ้น XD วันนี้ทั้ง KBANK, SCCC, INTUCH กดดันดัชนีฯ พร้อมแนะติดตามการเจรจาผู้นำจีน-สหรัฐฯ 6-7 เม.ย.และคืนนี้มีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ส่วนสัปดาห์หน้าติดตามการทยอยประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งในแดนลบต่อแต่คงไม่ลงมาก ให้แนวรับ 1,575 แนวต้าน 1,585 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สต่างปรับตัวลง รับผลจากข่าวสหรัฐฯยิงจรวดโทมาฮอว์คถล่มซีเรีย
นอกจากนั้น วันนี้หุ้นขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล โดยมีทั้งหุ้น KBNAK, SCCC, INTUCH ทำให้มีผลกดดันดัชนีฯด้วย
พร้อมแนะติดตามผลการเจรจาของผู้นำจีน-สหรัฐฯที่มีขึ้นในข่วงวันที่ 6-7 เม.ย.นี้ และคืนนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ส่วนสัปดาห์หน้าต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของหุ้นในกลุ่มแบงก์
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งอยู่ในแดนลบต่อจากช่วงเช้า แต่คงจะปรับตัวลงไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 เม.ย.) SET ยืนเหนือ 1,580 จุด ต่อเนื่อง แม้ในช่วงเช้า ประเด็นสหรัฐฯยิงมิสไซส์เข้าทำลายฐานทัพอากาศของซีเรียจะกดดันให้ราคาทองคำ น้ำมัน และหุ้นทั่วโลกแกว่งตัวผันผวน แต่ราคาทรัพย์สินต่างๆเริ่มฟื้นตัวแล้ว เนื่องจากนักลงทุนมองว่าความเสี่ยงจากปัจจัยกดดันดังกล่าวจำกัด ยังคงมุมมองเดิมว่า ในช่วงก่อนสงกรานต์ SET จะยืนเหนือ 1,580 จุด และระมัดระวังต่อการปรับฐาน ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระหว่างหลังสงกรานต์-เดือนพ.ค.นี้ แนะนำเพียง “Trading” เนื่องจากมอง upside จำกัดที่แนวต้าน 1,595-1,600 จุด โดยมี “trailing stop” เพื่อลดความเสี่ยงหาก SET หลุด 1,568 จุดลงมา
แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นที่มักจะปรับขึ้นก่อนสงกรานต์ อย่าง EASON MAJOR (ไตรมาส 2 เป็น high season และปีนี้เป็นปีทองของ line-up หนังต่างชาติ)
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” PTTGC รับผลดีน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่องและ Spread ปิโตรฯ แข็งแกร่ง: เป้าหมายพื้นฐาน 84 บาท 1) เป็นหนึ่งได้ผู้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ (น้ำมัน brent ปรับขึ้นต่อเนื่อง 10% แล้ว นับจากปลายเดือน มี.ค.) 2) คาดกำไร 1Q17 แข็งแกร่ง สนับสนุนโดย Spread ปิโตรฯ โดยเฉพาะ LDPE LLDPE 2) การซื้อธุรกิจ Polypropylene จาก PTT และกำลังการผลิต LDPE ทีเพิ่มขึ้น 4 แสนตัน/ปีในปี 2018 สนับสนุนการเติบโตกำไร 30-14% ปี 2017-18 ทางเทคนิค ราคาหุ้นเริ่มตั้งหลักเพื่อทดสอบ 74.5 บ. ผ่านไปได้มีเป้าตามกรอบ ที่ 77.5 บ.
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
TPIPP มูลค่าการซื้อขาย 1,089.95 ล้านบาท ปิดที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,057.22 ล้านบาท ปิดที่ 391.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 731.88 ล้านบาท ปิดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 675.74 ล้านบาท ปิดที่ 20.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 612.86 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท