เปิด 7 หุ้นพุ่งแรงสุดเจ๋ง! ชู 3 เดือนโกยรีเทิร์นเกิน 50%

ทิศทางตลาดหุ้นไทยในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมายังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมากระแส Fund flow ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคกว่า 6.3 พันล้านเหรียญ


ทิศทางตลาดหุ้นไทยในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมายังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมากระแส Fund flow ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นในภูมิภาคกว่า 6.3 พันล้านเหรียญ มากกว่ายอดซื้อสุทธิในเดือน ก.พ. และ ม.ค. ที่ 1.7 พันล้านเหรียญ และ 3.6 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ และเป็นการซื้อสุทธิเกือบทุกประเทศ ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ถูกขายสุทธิโดยสาเหตุน่าจะเกิดจากความผิดหวังต่อการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ฯที่ล่าช้า และไม่เป็นไปตามที่หาเสียง ส่งผลให้แรงซื้อต่างชาติกลับมาในตลาดหุ้นภูมิภาคในช่วงสั้น

ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอด 3 เดือน ปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเห็นได้จากดัชนีปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1575.11 จุด (31 มี.ค.60) บวก 32.17 จุด  หรือ 2.08%  จากระดับ 1542.94 จุด (30 ธ.ค.59) อีกทั้งทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงหลายตัว

ดังนั้น“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงทำการรวบรวมหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 3 เดือน มานำเสนอ โดยคัดเลือกหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงเกิน 50% โดยครั้งนี้มีหุ้นเข้ามาติดเกณฑ์ดังกล่าว 7 อันดับ คือ AMANAH, GIFT, GREEN, RCI, ECL, ORI และ AMATA ตามตารางประกอบดังนี้

 

อันดับ 1 บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH ปรับตัวขึ้นแรง 133.33% มาอยู่ที่ระดับ 2.10 บาท (31 มี.ค.60) บวก 0.90 บาท จากระดับ 1.20 บาท(30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงเนื่องจากหุ้นมีราคาถูกและง่ายต่อการดันราคา

ประกอบกับบริษัทแจ้งบฯปี 59 พลิกมีเป็นกำไร 31.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 136.41 ล้านบาททำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตามแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวแรงนักลงทุนควรระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจาก หุ้น AMANAH ยังติด Cash Balance ตั้งแต่ 3 เม.ย.-12 พ.ค.

 

อันดับ 2 บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT  ปรับตัวขึ้นแรง 97.44% มาอยู่ที่ระดับ 7.70 บาท (31 มี.ค.60) บวก 3.80 บาท จากระดับ 3.90 บาท(30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรง เนื่องจากหุ้นมีพื้นฐานที่น่าสนใจเห็นได้จากการสร้างผลกำไรที่โดดเด่นและต่อเนื่อง

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมากองทุนใหญ่ “TEMPLETON” เข้าถือหุ้น 10 ล้านหุ้น หรือ 3.3% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ประกอบกับโบรกเกอร์หลายสำนักออกบทวิเคราะห์แนะนำให้เข้าลงทุน ตรงนี้ยิ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานั่นเอง

 

อันดับ 3 บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN  ปรับตัวขึ้นแรง 67.62% มาอยู่ที่ระดับ 1.76 บาท (31 มี.ค.60) บวก 0.71 บาท จากระดับ 1.05 บาท(30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรง เนื่องจากหุ้นมีราคาถูกและง่ายต่อการดันราคา อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงอาจเสี่ยงต่อแรงขายทำกำไรได้ เนื่องจากพื้นฐานบริษัทยังประสบผลขาดทุนต่อเนื่อง

 

อันดับ 4 บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI  ปรับตัวขึ้นแรง 63.64% มาอยู่ที่ระดับ 3.96 บาท (31 มี.ค.60) บวก 1.54 บาท จากระดับ 2.42 บาท(30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงเนื่องจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทได้มีการเจรจาขายหุ้นให้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด โดยราคาที่เข้ามาถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 4 บาท ทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาอย่างคึกคัก

ประกอบผลการดำเนินงานปี 59 ขาดทุนลดลงเหลือ 31.20 ล้านบาท จากปี 58 ขาดทุนอยู่ที่ 69.43 ล้านบาท ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธุรกิจบริษัทจะพลิกฟื้นอีกครั้ง อีกทั้งช่วงที่ผ่านโบรกเกอร์แนะนำให้เข้าลงทุนยิ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นปรับตัวขึ้นแรงอีกทาง

 

อันดับ 5 บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL  ปรับตัวขึ้นแรง 63.64% มาอยู่ที่ระดับ 3.96 บาท (31 มี.ค.60) บวก 1.54 บาท จากระดับ 2.42 บาท(30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงเนื่องจากเป็นหุ้นราคาถูกจึงง่ายต่อการดันราคาจึงทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก

 

อันดับ 6 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  ปรับตัวขึ้นแรง 57.50% มาอยู่ที่ระดับ 12.60 บาท (31 มี.ค.60) บวก 4.60 บาท จากระดับ 8.00 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงเนื่องจากหุ้นมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องผลประกอบการปี 59 ที่มีกำไร 637.56 ลบ. โต 65% จากปี 58 มีกำไร 386.32 ล้านบาท

อีกทั้งแผนงานที่ปีนี้บริษัทมั่นใจว่าทั้งยอดขายและกำไรจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 1.3 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจำนวน 0.04 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นหุ้นอัตรา (หุ้นเดิม :หุ้นปันผล) 2.50:1 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย.60 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พ.ค.60 น่าจะเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรอย่างคึกคัก

 

อันดับ 7 บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA  ปรับตัวขึ้นแรง 54.78% มาอยู่ที่ระดับ 17.80 บาท (31 มี.ค.60) บวก 6.30 บาท จากระดับ 11.50 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงเนื่องจากหุ้นมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนอย่างโดดเด่น อาทิ นโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นอย่างมาก

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำเก็งกำไร AMATA ให้แนวรับ 17.70 บาท แนวต้าน 18.50 บาทและ 18.80 บาท Cut loss 17.50 บาท โดยราคาพุ่งขึ้นมาด้วยความร้อนแรง ขณะที่บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AMATA เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

อีกทั้งโบรกเกอร์แนะนำให้เข้าลงทุนเนื่องจากเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลเด่น โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดจำนวน 0.30 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค.60 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พ.ค.60 น่าจะเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรอย่างคึกคักอีกทาง

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button