RCIลากขึ้น-ลากลง
อาจารย์ถอยห่างจากหุ้น RCI มาเป็นเวลาหลายปี อาจมีบางครั้งที่พูดถึงบ้าง แต่มักเป็นลักษณะแนะนำให้ “ขาย” เป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่เคยเชื่อว่า บริษัทนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืน ความสามารถในการทำกำไรยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย
คุณสมบูรณ์ จาก บางนา กรุงเทพฯ พูดถึงข่าว บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI ซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้างจะถูก takeover ในช่วงต้นปี 58 ค่อนข้างเป็นข่าวที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะ “ข่าวลือ” ที่ออกมาในลักษณะกลุ่มไทวัสดุจะเข้าทำการ backdoor หุ้น RCI หลังจากนั้นจะนำมาเป็นบริษัทที่เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ
และนำไทวัสดุเข้าสวมกิจการแทนการ listed ในตลาด เนื่องจากการ backdoor จะทำให้เข้าตลาดได้เลยไม่เกินกลางปีนี้ และจุดคลายแม็กที่ทำให้ทุกคนเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น คงมาจาก ไทวัสดุ เป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัล ซึ่งมีแผนเข้าตลาดตั้งแต่ปี 57 แต่ถูกเลื่อนออกมา จึงคาดว่าไทวัสดุจะใช้วิธี backdoor แทน แต่จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรออกมาเลย จึงอยากให้อาจารย์ช่วยไขข้อข้องใจดังกล่าวอีกครั้ง เพราะเจ้ามือค่อนข้างโหดเกินไปหน่อยนะครับ
ถ้าวิเคราะห์การทะยานขึ้นของ บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า หุ้นตัวนี้แกว่งตัวขึ้นลงอย่างรุนแรง ช่วงไหนหุ้นขึ้นแรงๆ ช่วงนั้นเป็นจังหวะที่นักลงทุนไล่ซื้อกันอย่างคึกคัก แต่ช่วงไหนที่ดัชนีเริ่มอ่อนตัวลงเรื่อยๆ ช่วงนั้นมักเห็นราคาหุ้นร่วงลงมาเป็นปี ส่งผลให้หุ้นตัวนี้กลายเป็นหุ้นอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง
กราฟราคาหุ้นประกอบข่าว: Aspen
ข้อมูลตรงนี้ทำให้อาจารย์ถอยห่างจากหุ้น RCI มาเป็นเวลาหลายปี อาจมีบางครั้งที่พูดถึงบ้าง แต่มักเป็นลักษณะแนะนำให้ “ขาย” เป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่เคยเชื่อว่า บริษัทนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืน ความสามารถในการทำกำไรยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
จึงไม่มีความจำเป็นต้องฝากความหวังไว้ที่หุ้นตัวนี้เพียงตัวเดียว เพราะยังมีหุ้นพื้นฐานดีอีกหลายตัวในตลาดหุ้น ซึ่งควรค่าแก่การลงทุนมากกว่า และข้อมูลในส่วนดังกล่าวทำให้อาจารย์ปักใจเชื่อด้วยตัวเองว่า อย่าไปสนใจในสิ่งที่ไม่มีทางหยั่งรู้เลยครับ
เหมือนกับข้อมูลงบการเงินด้านล่างที่นำมาแสดงในครั้งนี้ คือตัวแปรที่บอกให้อาจารย์รู้ว่า นี่คือสาเหตุที่ทำให้หุ้นขึ้นแรง ลงแรง และเป็นต้นตอที่ทำให้มีการตีไข่ใส่สีกันอย่างสนุกสนาน เพราะตัวบริษัทไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย
ปี 54 | ปี 55 | ปี 56 | ปี 57 | |
รายได้รวม (ล้านบาท) | 1,049.12 | 1,077.52 | 1,024.04 | 994.30 |
กำไรสุทธิ (ล้านบาท) | -153.72 | -21.15 | 63.65 | 4.17 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | -0.49 | -0.07 | 0.18 | 0.01 |
…