TMB ประเดิมงบแบงก์ไตรมาส 1 เผยกำไรเสมอตัวที่ 2.10 พันลบ.

TMB ประเดิมงบแบงก์ Q1/60 ทรงตัว มาที่ 2.10 พันลบ. หรือมีกำไรสุทธิ 0.0479 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2.10 พันลบ. หรือมีกำไรสุทธิ 0.0478 บาทต่อหุ้น หลังตั้งสำรองสูงถึง 2.24 พันลบ.


ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2560  สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.60 (รวมบริษัทย่อย)  มีกำไรสุทธิ 2.10 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0479 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.20% จากปีช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.10 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0478 บาทต่อหุ้น

โดยในไตรมาส 1/60 ธนาคารได้ตั้งสำรองสูงถึง 2.24 พันล้านบาท แต่เมื่อพิจารณากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองพบว่าเติบโต 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ขณะที่สินเชื่อเพิ่มขึ้น 0.9% อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) คงที่อยู่ระดับ 2.53% และอัตราส่วนสำรองฯต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เพิ่มเล็กน้อยมาอยู่ที่ 144%

ขณะที่ในไตรมาส 1/60 ธนาคารกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.10 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.0 จากไตรมาส 4/59 แต่คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยธนาคารมีกำไรจากการดำเนินก่อนหักสำรอง (PPOP) จำนวน 4.76 พันล้านบาท ลดลง 1.4% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย

โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6.16 พันล้านบาท ลดลง 3.6% จากไตรมาส 4/59 ซึ่งเป็นการลดลงจากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของของปีก่อน เพิ่มขึ้น 3.9% เป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดี สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.21% ลดลงจากระดับ 3.33% ในไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.98% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.74 พันล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 จากการชะลอตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อและค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 10.5% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมลูกค้าบุคคล

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงดำเนินการตั้งสำรองอย่างรอบคอบ สำหรับไตรมาส 1/60 ซึ่งได้ตั้งสำรองจำนวน 2.24 พันล้านบาท ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 แต่เพิ่มขึ้น 19.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 ซึ่งการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นเป็นไปเพื่อรองรับการเร่งดำเนินการ write off สินเชื่อด้อยคุณภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจุดประสงค์ของธนาคารในการที่จะลดความเสี่ยงเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ขณะที่มี Coverage ratio อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 144% ณ สิ้นเดือนมี.ค.60 เทียบกับระดับ 143% ณ สิ้นเดือนธ.ค.59 และ 140% ณ สิ้นเดือนมี.ค.59

โดยธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม พร้อมกับการขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวังควบคู่ไปกับการพิจารณา  Risk-adjusted return ทั้งนี้ การดูแลคุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญ โดยธนาคารตั้งเป้าหมายจะรักษา Coverage ratio ในระดับสูงที่ 140-150%

Back to top button