กูรูงัด 13 บจ.เด็ด เก็งกำไรไตรมาสแรกพุ่ง!เริ่มเก็บหุ้นแบงก์ ดัชนีไซด์เวย์หลังหยุดยาว
ดัชนีหุ้นไทยไซด์เวย์หลังผ่านช่วงหยุดยาว มูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะนำสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลงานดำเนินงานไตรมาสแรกโดเด่น อาจมีแรงเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร คาดทยอยประกาศผลการดำเนินงานในสัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.12 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.41 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานที่ระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยไซด์เวย์หลังผ่านช่วงหยุดยาว มูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะนำสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลงานดำเนินงานไตรมาสแรกโดเด่น อาจมีแรงเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร คาดทยอยประกาศผลการดำเนินงานในสัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้า หุ้นเด่นเลือก ADVANC-KTB-TASCO-TPIPL-WHA-BCP-ITD-TTCL-TOP-KBANK-THCOM-NOK และ IFEC
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 เม.ย.) คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 16 ประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,540-1,555 จุด และมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่ยังคงติดช่วงวันหยุดคาบเกี่ยวของตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลางถึงบวก โดยเฉพาะจีนที่มีความเป็นไปได้สูงที่ ธนาคารกลางจีน จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม อย่างการลด RRR ลง หลังภาพรวมเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 1/58 เติบโตชะลอตัว ภาคอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นในเอเชียวานนี้ที่ปรับตัวลงหลังจีนประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/58 เติบโตชะลอตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552
ด้านกรีซ ทั้งนายกฯ กรีซ และ เจ้าหนี้อียู ต่างเดินหน้าเจรจากันในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้เส้นตายระหว่างกรีซ และ เจ้าหนี้อียู กำหนดไว้ที่ 24 เม.ย. เราคาดว่าการเจรจาจะเร่งตัว พร้อมกับ จำกัดกรอบการเจรจาลง เพื่อหาข้อสรุปให้ทันกับเส้นตายดังกล่าว
ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาโดดเด่นและทะลุแนว 1,555-1,560 จุดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศในวันที่ 20 เม.ย.นี้เป็นต้นไป กระแสเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอการลงทุนในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อรอผลดังกล่าวในสัปดาห์หน้า แต่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติก็เป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้เช่นกัน
ดังนั้นการย่อตัวของ SET INDEX ในช่วง 1-2 วันนี้ กลายเป็นจังหวะของการเข้าทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 เติบโตเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตฯ
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 เติบโตเด่น หรือ หุ้นที่ยังมีประเด็นเชิงบวกต่อการประชุมผู้ถือหุ้น” เป็นทางเลือกของการเก็งกำไรในระลอกใหม่
Top Pick in Q2/15: ITD/TASCO/TPIPL/WHA
Accumulative Buy: BCP/ITD
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 เม.ย.) ว่า แม้ SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,538-1,550 จุด ปลายสัปดาห์นี้ แต่แนะนำ “ซื้อ” ก่อนการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ 20-26 เม.ย.นี้ หนุนความควาดหวังต่อการเลือกตั้งต้นปี 2016 ด้วยเป้าหมายการปรับขึ้นระยะ 1-3 เดือนที่ 1,600-1,620 จุด ด้วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจาก 1) ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และคาดการณ์กลุ่มโรงกลั่นกลับมาทำกำไรในไตรมาส 1/15 2) ม.44 หนุนการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐฯ
แนะนำ “ซื้อ” TTCL (ต้าน 58-59) ต่อจากปลายสัปดาห์ก่อน ด้วย Upside กว่า 60% ที่ 55 บาท หลังมีความชัดเจนลงทุนโรงไฟฟ้าพม่า ขณะที่กำไรปี 2015 เติบโตแกร่ง 141% จากปีก่อนและ “ซื้อ” TOP (ต้าน 57) คาดกำไรไตรมาส 1/15 พลิกเป็นกำไร 4.7 พันล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นหนุนโอกาสกำไรสต็อกน้ำมันไตรมาส 2/15 นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” KBANK และ THCOM ที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/15 เติบโตดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (16 เม.ย.) ว่า ทิศทางตลาดผันผวนแต่คาดมีโอกาสปรับขึ้นภายใต้ปัจจัยบวกจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ามันและถ้อยแถลงของประธาน ECB ภายใต้ความเป็นไปได้ที่ ECB จะซื้อพันธบัตรต่อไปเกินกว่าเดือนกย.59 (วงเงิน 60,000 ล้านยูโร/เดือนเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้เดิม
ขณะที่ประเด็นในประเทศคาดได้รับปัจจัยกดดันจาก 1) Fund Flow ที่คาดมีความผันผวนหลังล่าสุดต่างชาติขายสุทธิแต่มูลค่าไม่มากนักเพียง 251 ล้านบาทและ 2) ประเด็นการเกิดระเบิดที่เกาะสมุยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาคาดอาจส่งผลกระทบบ้างต่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามคาดอาจเริ่มมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารซึ่งคาดทยอยประกาศผลการดำเนินงานในสัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้าและหลังจากนั้นตามด้วยกลุ่ม Real Sector ที่มีไปจนถึงกลางเดือนพค.
ยังแนะเก็งกำไร 1) TASCO ที่คาดได้รับประโยชน์จากงบประมาณโครงการซ่อมสร้างถนนของกระทรวงคมนาคมประมาณ 34,000 ล้านบาทและ 2) การประมูล 4 คาด ADVANC รวมถึงกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการวางโครงข่ายเสาเช่น CSS เป็นต้นด้านประเด็นต่างประเทศแนะติดตามต่อเนื่องและคาดอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้โดยเฉพาะประเด็นที่ยูโรโซนเสนอให้กรีซยื่นข้อเสนอมาตรการปฏิรูปฉบับแก้ไขแล้วต่อยูโรกรุ๊ปซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 24/4/58 นี้เพื่อให้กรีซได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในส่วนที่เหลือต่อไป
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีทรงตัวอยู่ที่ 1.90% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อกพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.83 อยู่ที่ 12.84
หุ้นแนะนำ: KTB
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (16 เม.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดยังอยู่ในการเคลื่อนไหวแกว่งตัวสลับขึ้นและลงในกรอบแนวรับและแนวต้านดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเทคนิคพบว่า SET ยังทรงตัวบนเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันและ 25 วัน ซึ่งล่าสุด MACD แสดงค่าเป็นบวกมากขึ้นที่ +1.81 ทำให้ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้นและจะขึ้นไปทดสอบ 1,555 จุดใหม่อีกครั้ง
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,540-1,555
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร NOK และ IFEC