สุดยอด! “ข่าวสด” ขึ้นแท่นเว็บไซต์อันดับ 1 ประเทศไทย

สุดยอด! ข่าวสด ขึ้นแท่นเว็บไซต์อันดับ 1 ของไทย


ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการเครือมติชน เปิดเผยว่า การรับข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นวิถีชีวิตคนในสังคมไทยปัจจุบัน โดยเฉพาะการเข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟนที่ทำให้การเข้าถึงข่าวสารฉับไวรายวินาที ซึ่งเป็นไปตามกระแสโลก

ล่าสุดจากการจัดอันดับของ ทรูฮิต (Truehits) ผู้เก็บสถิติเว็บไซต์ไทย โดยสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ ได้จัดอันดับเว็บไซต์ปี 2017 ปรากฏว่าเว็บไซต์ข่าวสด www.khaosod.co.th ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของเว็บไซต์ทั่วประเทศทุกหมวดหมู่ โดยมีคนดูเฉลี่ยต่อวันที่ 1,065,488 (คำนวณตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-22เมษายน 2560) 

โดยนับเป็นพัฒนาการอีกก้าวที่สำคัญของสื่อออนไลน์ในเครือมติชนที่เว็บไซต์ข่าวสดขยับตำแหน่งจากอันดับ 1 ในหมวดสื่อ มาสู่ตำแหน่งอันดับ 1 ของเว็บไซต์ทุกหมวดทั่วประเทศ ซึ่งปรากฏการณ์ที่เว็บไซต์สำนักข่าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้นั้น เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อความกระหายใคร่รู้เป็นธรรมชาติหนึ่งของมนุษย์ เว็บไซต์ข่าวก็ได้เข้ามาตอบสนอง แต่ใครจะทำได้ดีกว่า ทำแล้วมีคนอ่านให้ความเชื่อถือแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนสิ่งที่จะสร้างความนิยมของสื่อออนไลน์แต่ละแห่งนั้นจะต้องมีความเร็วในการเสนอข่าว และต้องรักษาความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้อ่าน

สำหรับแนวทางที่จะพัฒนาต่อไปวางเป้าสื่อออนไลน์ไว้ด้วยการเดินไปพร้อมกันทั้งเครือ

โดยในเครือมติชนมีเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ 3 เว็บไซต์ คือ ข่าวสด มติชน และประชาชาติธุรกิจ หลายครั้งที่ประชาชาติธุรกิจขึ้นมาติด 1 ใน 10 เว็บสื่อ และบ่อยครั้งที่มติชนขึ้นมาติด 1 ใน 10 เว็บทั่วประเทศ

ส่วนอีกลูกเล่นที่จะเพิ่มเข้ามาในสื่อออนไลน์เครือมติชน คือ “คลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊ก” ที่ฐากูรเผยว่าเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนดูไลฟ์ในเฟซบุ๊กข่าวสดทั้งหมด 98.4 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 3 ล้านกว่าคน คนดูมากกว่าคนอ่าน 3 เท่า

สำหรับแนวทางการพัฒนาที่วางไว้ คือ

1.พัฒนาโปรดักต์ โดยเฉพาะการตอบสนองเรื่องไลฟ์สตรีมและคลิปวิดีโอ ควบคู่กับสื่อที่เป็นตัวอักษร ซึ่งสื่อผสมเป็นกระแสที่สื่อทั่วโลกกำลังมุ่งไป

2.ขยายฐานการอ่าน วันนี้คนกดเข้าดูเว็บไซต์ในเมืองไทยเฉลี่ย 14 ล้านคนต่อวัน และวันหวยออกเพิ่มเป็น 17 ล้าน ฐากูรมองว่ายังน้อยอยู่ ในฐานะคนผลิตข้อมูลข่าวสารต้องการให้มีการแพร่กระจายมากที่สุด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม โดยเริ่มจากความเหลื่อมล้ำของข้อมูลข่าวสาร ซึ่งจะต้องเริ่มที่การพัฒนาตัวเอง

3.การทำบิ๊กดาต้า ตอบสนองเรื่องธุรกิจ เมื่อมีฐานลูกค้าในมือแล้ว โลกดิจิทัลสามารถจำแนกพฤติกรรมผู้อ่านได้ว่าอ่านข่าวตอนไหน อ่านข่าวอะไร เป็นข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ซึ่งคลังข้อมูลอยู่กับแพลตฟอร์มใหญ่อย่างกูเกิลและเฟซบุ๊ก นำมาสู่เรื่องโฆษณาที่จะแสดงผลตามพฤติกรรม ซึ่งการทำบิ๊กดาต้าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการโฆษณาและเพิ่มมูลค่าข่าว

การพัฒนาสื่อทุกรูปแบบที่มีอยู่ในเครือมติชน หมายรวมถึง “สื่อสิ่งพิมพ์” ซึ่งเป็นฐานที่มติชนเติบโตมาและมีความเชี่ยวชาญ สื่อทุกรูปแบบที่มติชนมีจะมีฐานผู้อ่านเฉพาะตัว ทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และหนังสือเล่ม

“หนังสือพิมพ์” หากมองว่าคนที่โตมากับสื่อชนิดนี้ ในวันนี้มีอายุ 40 ปี ยังมีลมหายใจอีกถึง 20-30 ปี ซึ่งระหว่างนั้นจะต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงเรื่อยไป สถานการณ์วงกาหรนังสือพิมพ์วันนี้เริ่มอยู่ตัว ไม่ได้ดิ่งอย่างที่หลายคนคาดการณ์

“หนังสือเล่ม” ผลสรุปจากงานสัปดาห์หนังสือฯปีนี้ออกหนังสือน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่มียอดขายเท่ากัน และหนังสือขายดีที่สุดคือ “ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม” ที่ราคาสูงราวเก้าร้อยกว่าบาท สะท้อนว่าหากเป็นหนังสือที่ดี คนก็ยอมจ่ายเงินได้ เทรนด์วงการหนังสือที่มติชนมองจึงอาจเป็นการทำน้อยลง แต่ทำให้ดีขึ้น ทั้งเนื้อหาและรูปเล่ม ไม่ใช่การทำหว่านอย่างเดิม ตรงนี้เป็นแนวทางพัฒนาสื่อที่สอดคล้องกันทั้งเครือ คือการปรับตัวตามสถานการณ์โลก ตอบสนองผู้อ่านในทุกรูปแบบ โดยการคงแก่นด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

Back to top button