BEM สดใส

มีการวิเคราะห์กันว่า BEM จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 60 จะฟื้นตัวดีที่ระดับ 751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษจากกำไรการขายเงินลงทุน 31 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 59


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 60 จะฟื้นตัวดีที่ระดับ 751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษจากกำไรการขายเงินลงทุน 31 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 59

กำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุที่คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่คาดจะลดลง 25.6% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาส 4 ปี 59 มีค่าใช้จ่ายในการรองรับโครงการที่เปิดให้บริการเพิ่ม

ส่วนการเพิ่มขึ้นของกำไรจากงวดเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 3,753 ล้านบาท โดยรายได้ธุรกิจทางด่วนเติบโตดีขึ้นโดยเพิ่มขึ้น 7.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน  แม้ค่าผ่านทางเฉลี่ยต่อคันจะลดลง 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ปริมาณรถเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,357 พันคัน จาก 1,179 พันคันในปีก่อน บวกกับรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าที่โตเพิ่มขึ้น 84% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรับรู้ค่าจ้างจากการเดินรถสายสีม่วงราว 480 ล้านบาท และจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ปัจจุบัน BEM ได้เซ็นสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระแล้ว มีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี สิ้นสุดพร้อมกับสัญญาของสายสีน้ำเงินเดิมในปี 2592 กำหนดอัตราค่าโดยสารของสายสีน้ำเงินตลอดสาย 16-42 บาท คาดว่าทยอย Operate บางสถานีภายในปี 2562 (หัวลำโพง-บางแค) และเต็มเส้นในปี 2563 โดยประมาณการ ได้สะท้อนเงื่อนไขของสัมปทานแล้ว และคาดว่าภายหลังการเดินรถเต็มเส้นแล้วจะหนุนให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นราว 1 แสนเที่ยวต่อวันในช่วง 1 – 2 ปีแรก นอกจากนี้ ยังมี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการอีก อาทิ แผนการเปิดประมูลการเดินรถสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ภายในครึ่งหลังของปี 60

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่าทั้งปี 2560 ยังมีมุมมองเป็นบวกกับการรับรู้รายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนศรีรัชรอบนอก และการเดินรถสายสีม่วงเต็มปี รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่น่าจะเติบโตได้ดีจากสายสีม่วงหลังการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ในเดือนส.ค. คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 โตแข็งแกร่งที่ 3,323 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท รวมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแล้ว

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 4,544,912,129 หุ้น 29.73%
  2. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 1,256,259,584 หุ้น 8.22%
  3. ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1,047,025,175 หุ้น 6.85%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 789,064,113 หุ้น 5.16%
  5. นายวิชัย วชิรพงศ์ 386,545,048 หุ้น 2.53%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานกรรมการบริษัท
  2. นายวีรพงษ์ รามางกูร กรรมการอิสระ
  3. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร
  4. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ รองประธานกรรมการบริษัท
  5. นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ

Back to top button