ชู 11 หุ้นเด่นเน้นมีปัจจัยหนุน-ราคา laggardSET ลดความร้อนแรงหลังปัจจัยนอกปท.เป็นลบ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวหรืออ่อนลงแต่ไม่แรงนัก หลังจากที่มีปัจจัยภายนอกเป็นลบเล็กน้อยจากตลาดต่างประเทศมีความกังวลในเรื่องของกรีซที่ขอเลื่อนชำระหนี้ หุ้นเด่นเลือก TRUE-EVER-BCP-RS-PLANB-BJCHI-ITD-PTTGC-CPF-MONO-ICHI
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 32.378 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการปิดลบของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมยังดีอยู่ แต่อาจทรงตัวหรืออ่อนลงแต่ไม่อ่อนตัวแรงนัก หลังจากที่มีปัจจัยภายนอกเป็นลบเล็กน้อยจากตลาดต่างประเทศมีความกังวลในเรื่องของกรีซที่ขอเลื่อนชำระหนี้ อย่างไรก็ตามแนะนำนักลงทุนระวังแรงขายทำกำไร โดยคาดว่าอาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด
หุ้นเด่นเลือก TRUE-EVER–BCP–RS-PLANB-BJCHI–ITD-PTTGC–CPF-MONO-ICHI
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 17 แรงขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,580 จุด จะหนาแน่นมากยิ่งขึ้น แม้ว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่น และมีแนวโน้มที่จะซื้อสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของเดือนเม.ย. หากราคาน้ำมันดิบ NYMEX แกว่งเหนือ US$55/barrel ต่อเนื่อง เพราะกลุ่มพลังงาน ,ปิโตรเคมีของไทย ซื้อขาย PER15 ต่ำเพียง 12.48x และ 12.15x ตามลำดับ เทียบกับ SET INDEX ณ ปัจจุบัน ซื้อขาย PER15 ที่ 15.45x ทั้งนี้หุ้นหลักอย่าง PTT ซื้อขายเพียง 11.15x เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะทำให้ SET INDEX จะสามารถไต่ระดับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,600 จุด ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในกลุ่มธนาคารเป็นสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นหลักอย่าง KBANK ,SCB หากออกมาใกล้เคียงกับคาด หรือ ดีกว่าคาด ย่อมทำให้แรงขายปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน ,ปิโตรเคมี จำกัด เป็นการช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงที่เหลือของเดือนเม.ย.นี้ได้
ส่วนความคืบหน้าของการเจรจาระหว่าง กรีซ และ เจ้าหนี้อียู เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเส้นตายวันที่ 24 เม.ย. ที่ทั้งกรีซ และ เจ้าหนี้ อียู น่าจะประนีประนอม จนได้ข้อสรุปกรอบการปฎิรูปเศรษฐกิจของกรีซ เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซรอบใหม่เกิดขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนถือพอร์ตเก็งกำไรรอบนี้ เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุดหรือสูงกว่า” เพื่อปิดความเสี่ยงที่กองทุนทริกเกอร์ฟันด์จะเริ่มทยอยปิดกองทุนในบริเวณดังกล่าว
Speculative Buy: ITD/PTTGC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) แม้ SET อาจมีแรงขายบ้างที่แนวต้านย่อย 1,572/1,583 จุด แต่แนะนำ “ซื้อ” ต่อไปด้วยเป้าหมายระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าที่ 1,600-1,620 จุด จากความคืบหน้าร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เปิดทางเก็งกำไรเลือกตั้งต้นปี 59 และจากการใช้ ม.44 หนุนการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนรัฐบาลในระยะถัดไป อีกทั้งราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และคาดการณ์กลุ่มโรงกลั่นกลับมาทำกำไรในไตรมาสที่ 1/58
ทั้งนี้กลุ่มโรงกลั่นยังโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น TOP-PTTGC-IRPC และยัง Let Profit Run ต่อไปได้ แนะนำ “ซื้อ” BCP จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 พลิกกลับมาเป็นกำไรจากค่าการกลั่นสูง US$8-11/bbl
อีกทั้งธุรกิจพลังงานทางเลือก และ E&P ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และความกังวลต่อการขายหุ้นของ PTT หมดลงหลังจะขายหุ้น 12% สุดท้ายให้ประกันสังคม และราคา Laggard โรงกลั่นอื่นตั้งแต่ต้นปี เติบโต 11% (เฉลี่ยเติบโต 35% จากปีก่อนถึงปัจจุบัน)
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) คาด SET วันศุกร์ทรงหรืออ่อนลง (ไม่แรง) หลังจิตวิทยาภายนอกเป็นลบเล็กน้อย เมื่อวานกรีซขอเลื่อนชำระหนี้งวด 1 พ.ค. กับ IMF ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเจรจากับเจ้าหนี้ยุโรปไม่คืนหน้า ล่าสุด IMF ปฏิเสธคำขอดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนลดเฉลี่ย 1.4% ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นทรงตัวหลังผู้ว่าเฟด 2 สาขาให้ความเห็นต่างกันต่อแนวโน้มดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ มี.ค. ที่จะออกในคืนนี้ เพื่อชี้แนวนโยบายเฟดในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 28-29 เม.ย.
ส่วนปัจจัยภายในเป็นบวกเล็กน้อย ด้วยความคาดหวังต่อการเลือกตั้งปี 59 หลังกรรมการ กกต. วานนี้ส่งสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้งใน เม.ย.59 (ทาง KGI มอง มี.ค.-พ.ค.) ซึ่งอาจส่งผลดีต่อกระแสทุนต่างชาติที่กังวลต่อการเมืองไทยในช่วงก่อนหน้านี้ ภายรวม SET ยังแกว่งขึ้น แนะถือต่อหรือซื้อสะสมช่วงย่อ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร RS-PLANB-BJCHI
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) คาดดัชนีวันนี้ Sideway Up ในกรอบแนวต้าน 1578/1583 จุด และแนวรับ 1562/1555 จุด จากแนวโน้ม Dollar Index ที่ทรงตัวต่อเนื่อง รวมถึงความคาดหวังบวกต่อนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของจีนเป็นปัจจัยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้ง ราคาน้ำมันดิบ, ถ่านหิน, ค่าระวางเรือ ส่ง sentiment บวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งปัจจัยบวกในประเทศที่สัญญาณ Fund Flow ไหลเข้า หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน ที่ 32.39 บ/ดอลล่าร์ สะท้อนจากปริมาณการเปิดสถานะ Net Long ในตลาด TFEX ที่ต่างชาติยัง Long ต่อเนื่องด้วยอัตราเร่ง 9 วันติดต่อกัน กว่า 51,908 สัญญา ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มให้น้ำหนักการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และเริ่มทยอย allocate เม็ดเงินเข้ามา สอดคล้องกับมุมมองของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศช.) ที่ประเมินเบื้องต้น GDP ไตรมาส 1/58 ของไทย จะโตที่ระดับ 3% ได้(Nomura 3.7% จากปีก่อน) จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวนำ ชดเชยภาคการส่งออก บวกการบริโภคมีสัญญาณฟื้นตัวจากอานิสงค์ราคาน้ำมันต่ำ
โดย สศช. ยังคงเป้า GDP ทั้งปี 58 ในกรอบ 3.5-4.5% (Nomura คาด 3.3%) และจากภาคการส่งออกที่ชะลอตัว นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง จึงอยากให้ กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ 1.5% ในการประชุม 29 เม.ย. นี้ สอดคล้องกับ Nomura ที่ให้น้ำหนักการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในช่วงไตรมาส 2/58 ในภาวะที่เงินเฟ้อไม่ใช่แรงกดดัน ถือเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย น่าจะขึ้นทดสอบแนวต้านเดือนนี้กรณีฐานที่ 1578/1587จุด (Best 1600) ได้
แนะนำลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยหนุน และราคา laggard (CPF-MONO-ICHI)
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) ทิศทางตลาดหุ้นไทยความร้อนแรงของตลาดจะลดลงในวันนี้ หลังตลาดต่างประเทศมีความกังวลในเรื่องของกรีซที่ขอเลื่อนชำระหนี้ แต่ด้วยปัจจัยบวกในเรื่อง ของแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังคงดี ภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรกเข้ามา จะทำให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยในระหว่างวันจากการขายทำกำไรช่วงสั้น และหากมีข่าวในเชิงบวกเข้ามาในตลาด ดัชนียังมีโอกาสที่จะปิดบวกได้เมื่อสิ้นวัน
กลยุทธ์การลงทุน ด้วยความแรงของราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันเมื่อวานนี้ จะทำให้วันนี้ หุ้นกลุ่มนี้จะลงทุนได้ยากขึ้น แต่คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีมากขึ้น (IVL-IRPC) ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร จะกลับเข้ามาเก็งกำไรในเรื่องงบการเงินไตรมาส 1 กันต่อ ได้แก่ BBL-KBANK-SCB และกลุ่มที่ส่วนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ได้แก่ HANA-DELTA-TUF-CPF และท้ายสุด คือกลุ่มที่มีข่าวบวกอื่นๆ เช่น THCOM-CKP เป็นต้น
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) กลยุทธ์การลงทุนการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และ สถิติ 5 ปีพบว่า SET จะให้ผลตอบแทน 3% หลังสงกรานต์ทุกปีเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น Global มากขึ้น วันนี้เลือก Top picks VNG ([email protected]) และ PTT(FV@B398)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ มุมมองทางเทคนิคดัชนีตลาดยังอยู่ในการเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นตามสัญญาณทางเทคนิคซึ่งพบว่า SET ยังทรงตัวสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันและ 25 วัน ซึ่งล่าสุด MACD แสดงค่าเป็นบวกมากขึ้นที่ +5.02 ทำให้ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้นและจะขึ้นไปทดสอบ 1580 จุดใหม่อีกครั้ง คาดว่าวันนี้ปรับขึ้นแต่เริ่มแกว่งตัวผันผวนตามแนวต้านระดับต่างๆบ้างแล้ว
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1560-1580 จุดหุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ TRUE-EVER