สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ยังคงทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,949.89 จุด เพิ่มขึ้น 36.43 จุด หรือ +0.17%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,391.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด หรือ +0.12% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,095.37 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด หรือ +0.06%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า กรีซและสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินกู้งวดใหม่แก่กรีซแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ของยูโรโซนมีการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.8% แตะที่ 389.53 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2558

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,250.05 จุด เพิ่มขึ้น 46.11 จุด หรือ +0.64% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,304.15 จุด เพิ่มขึ้น 36.82 จุด หรือ +0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,507.90 จุด เพิ่มขึ้น 69.89 จุด หรือ +0.56%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) ด้วยแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างบีพีและไชร์ ซึ่งหนุนหุ้นบริษัทพุ่งขึ้นนำตลาดเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ดัชนี FTSE 100 ยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคการผลิตของอังกฤษที่ขยายตัวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 46.11 จุด หรือ +0.64% ปิดที่ 7,250.05 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณสต็อกน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตถึงสิ้นปีนี้ก็ตาม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 50.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าคณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปหรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 1,257.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.1 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 16.831  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 6.2 ดอลลาร์  หรือ 0.7% ปิดที่ 926 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 85 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 813.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0923 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0906 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2924 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2908 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7528 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7534 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 112.05 เยน จากระดับ 111.83 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9926 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9954 ฟรังก์สวิส