KTAM ขายกอง KTFF146 วันนี้-8พ.ค.

KTAM ออกตราสารหนี้ตปท. KTFF146 อายุ 3 เดือน ชูผลตอบแทน 1.40% ต่อปี ขายวันนี้-8 พ.ค.


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM)  เปิดเผยว่า บริษัทออกกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 146 (KTFF146)   เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 อายุ 3 เดือน  มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ China Construction Bank (Asia)Corporation Limited, Agricultural Bank of  China (Hong Kong Branch ), AI Khaliji Commercial Bank, Union National Bank PJSC, United Arab Emirates, Abu Dhabi  Commercial  Bank, Bank Rakyat Indonesia (PERSERO) Tbk, Indonesia ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ยกเว้น Abu Dhabi  Commercial  Bank  ลงทุนในสัดส่วน 10%  ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

สำหรับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ  ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ  เนื่องจากการที่ตลาดกลับมาลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยตามปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองในยุโรปที่ลดน้อยลง หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกออกมาตามการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ ผลกระทบจากแรงขายของนักลงทุนและปัจจัยความเสี่ยงในตลาดที่ปรับตัวลดลง  ส่งผลให้ความต้องการประมูลพันธบัตรรุ่นอายุ 30 ปี ลดลง โดยมี Bid Coverage Ratio เพียง 1.13 เท่า

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสิทธิจำนวน 6,603 ล้านบาท  โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps  มาอยู่ที่ 1.57% ต่อปี  อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps  มาอยู่ที่ 2.13% ต่อปี  และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps  มาอยู่ที่ 2.77% ต่อปี

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายของนักลงทุน จากที่ตลาดกลับมาให้น้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ภายหลังจากปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองในยุโรปเริ่มคลี่คลายลง  สอดคล้องกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก

รวมถึงมุมมองการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในประเทศตามแผนการปฎิรูประบบภาษีที่ทางรัฐบาลสหรัฐ  ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสรุปผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps  มาอยู่ที่ 1.26% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 1.81%ต่อปี  และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 2.28%ต่อปี

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมีนาคม  ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า  โดยการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่อง และตัวเลขนักท่องเที่ยวยังฟื้นตัวดีขึ้น ธปท. คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 มีโอกาสขยายตัวมากกว่า 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านกระทรวงพาณิชย์เผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน ขยายตัว 0.38 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทำให้ 4 เดือนแรกของอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.03%  ซึ่งบลจ.กรุงไทย มองว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว  โดยการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีการชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน

Back to top button