โบรกฯชู 3 ปัจจัยหลัก ดัน SET แตะ 1600 จุดในครึ่งเดือนหลังเม.ย.

มองเมื่อพ้นช่วงสงกรานต์ไปแล้ว SET Index ยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อ โดยการรีบาวด์ขานี้อาจไกลถึง 1600 จุด ด้วย 3 เหตุผลหลัก (1)การกลับเข้าสู่ตลาดของนักลงทุน (2)การเดินหน้าประเทศตามโรดแมปจะเห็นเป็นข่าวให้เห็นมากขึ้น (3)โอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุม กนง.วันที่ 29 เม.ย.


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (17 เม.ย.) ว่า กระแสเงินทุนต่างประเทศเริ่มพลิกเป็นบวก หลังในหลวงโปรดเกล้าฯ ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในช่วงค่ำของวันที่ 1 เม.ย. ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5.09 พันล้านบาท พร้อมกับ Long SET50 Index Futures อย่างมีนัยสำคัญ 4.74 หมื่นสัญญาในเดือน เม.ย. (MTD)  มองเมื่อพ้นช่วงสงกรานต์ไปแล้ว SET Index ยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อ โดยการรีบาวด์ขานี้อาจไกลถึง 1600 จุด ด้วย 3 เหตุผลหลัก ดังนี้

          (1)การกลับเข้าสู่ตลาดของนักลงทุน – โดยปกติก่อนช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี นักลงทุนส่วนใหญ่มักชะลอการลงทุน ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นในมือจะค่อนข้างน้อย (Under-owned) และเมื่อผ่านพ้นช่วงสงกรานต์ไปแล้ว หากทิศทางตลาดหุ้นโลกเคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามปกติ หรือไม่มีข่าวเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ มักจะกระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาสะสมหุ้นอีกครั้ง

ประกอบกับหลังสงกรานต์จะเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการประกาศงบไตรมาส 1 ของทุกปี จึงมักส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการเข้ามาในระยะสั้น  จากการศึกษาข้อมูลการซื้อขายในอดีต 10 ปีย้อนหลัง (ปี 2005-2014)  มีโอกาสสูงถึง 90% ที่หุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลัง เม.ย. (หลังสงกรานต์) โดยมีค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นราว +2.1% 

          (2)การเดินหน้าประเทศตามโรดแมปจะเห็นเป็นข่าวให้เห็นมากขึ้น  – รัฐบาลกำหนดแถลงผลงานรอบ 6 เดือนในวันที่ 17 เม.ย. นี้ ขณะที่กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อดำเนินการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้า 3 สายในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 2. รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 3. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง  นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 20-26 เม.ย. สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะเปิดอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับร่างแรกที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว สิ่งนี้น่าจะช่วยสร้างความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญและความเชื่อมั่นในการเดินหน้าประเทศตามแผนโรดแมปได้มากขึ้น

          (3)โอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุม กนง.วันที่ 29 เม.ย. – ด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ (ดัชนีราคาผู้บริโภคไทยในเดือน มี.ค. -0.57% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 66 เดือน) ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยหลายประเทศสำคัญของโลกยังอยู่ในทิศทางทรงกับลง  TISCO ESU

มองคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% หลังจากที่เพิ่งปรับลดลง 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  โดย TISCO ESU ให้โอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งนี้ในวันที่ 29 เม.ย. มากกว่าการประชุมในครั้งถัดไปในวันที่ 10 มิ.ย.

ขณะที่ 3 ธีมหุ้นเด่นช่วงครึ่งเดือนหลัง เม.ย.มอง SET Index ครึ่งเดือนหลัง เม.ย. อยู่ในช่วงรีบาวด์ต่อเนื่องจากครึ่งเดือนแรก โดยมีเป้าหมายรอบนี้อาจไกลถึง 1600 จุดหากบรรยากาศการลงทุนเอื้ออำนวย อาทิ มีกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าต่อเนื่อง (ซึ่งเราเห็นสัญญาณเชิงบวกจากต่างชาติชัดมากขึ้น หลังซื้อสุทธิสูงถึง 3.9 พันล้านบาทในวันที่ 16 เม.ย. ซึ่งเป็นวันทำการแรกหลังหยุดยาวช่วงสงกรานต์) หรือราคาน้ำมัน WTI ขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล จากระดับปัจจุบันที่รีบาวด์มาอยู่ที่ประมาณ 56 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปีนี้ เป็นต้น

อีกทั้ง 3 ประเด็นหุ้นน่าลงทุนรอบครึ่งเดือนหลัง เม.ย. คือ (1) หุ้นได้ประโยชน์จากข่าวเชิงบวกในการเดินหน้าประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง แนะนำ หุ้นรับเหมา – CK, SEAFCO, STEC หุ้นวัสดุก่อสร้าง – SCC, TPIPL อื่นๆ ADVANC, AOT, KBANK, SCB, SPALI (2) หุ้นเก็งงบไตรมาส 1 จะออกมาดี แนะนำ BCP, CPN, QH, SCC, SST, STPI, THCOM

และ (3) หุ้นได้อานิสงส์เชิงบวกจากโอกาส กนง.ลดดอกเบี้ย แนะนำ หุ้นลีสซิ่ง-ปล่อยกู้ขนาดย่อม – ASK, MTLS, IFS, SAWAD, TCAP หุ้นอสังหาฯ -ANAN, AP, QH หุ้นปันผลดี – ASP, BTS, INTUCH

Back to top button