TMI โอกาส(ใหม่)หลังวิกฤต
บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เป็นบริษัทขายหลอดไฟฟ้าที่นำความสว่างไสวมาให้ผู้คน แต่สองปีเศษที่ผ่านมา ผู้บริหารบริษัทอย่าง นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ ต้องทำตัวให้หายไปจากจอเรดาร์ ประหนึ่ง “โปรเมธุส” ตำนานเก่าแก่ของคนที่นำไฟมาให้มนุษย์ แต่ต้องรับโทษทัณฑ์ทรมานยาวนาน
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เป็นบริษัทขายหลอดไฟฟ้าที่นำความสว่างไสวมาให้ผู้คน แต่สองปีเศษที่ผ่านมา ผู้บริหารบริษัทอย่าง นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ ต้องทำตัวให้หายไปจากจอเรดาร์ ประหนึ่ง “โปรเมธุส” ตำนานเก่าแก่ของคนที่นำไฟมาให้มนุษย์ แต่ต้องรับโทษทัณฑ์ทรมานยาวนาน
วันนี้ นายธีระชัย กลับมาอีกครั้ง ด้วยประกาศไฟในการทำงานเต็มเปี่ยม ตอกย้ำว่า ที่หายหน้าไปนานนั้น ไม่ได้หนีหาย แต่ไปปรับกระบวนกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างอนาคต หลังจากที่ธุรกิจเดิมขายหลอดไฟประสบมรสุมจากการเปลี่ยนแปลงที่ชุมปีเตอร์เรียกว่า “การทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์” หรือ creative destruction
การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ถือว่า “ถอนรากถอนโคน” กันเลยทีเดียวคือ การยกเลิกหลอดไฟฟ้าใช้บัลลาสท์ มาเป็นหลอด LED ที่ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุด …ซึ่งผลลัพธ์คือ ยอดขายของ TMI ในสินค้าเก่าหดหายไปอย่างรุนแรง ต้องประคองตัวย่ำแย่รับขาลงของธุรกิจในยุคเปลี่ยนผ่าน
งบการเงินที่ทำท่า “ล้มลุกคลุกคลาน” ทำให้ TMI ขาดทุนในปลายปี 2557 แล้วกำไรเพียงน้อยนิดในสิ้นปี 2558 ก่อนจะกลับมาเริ่มมีกำไรเพิ่มขึ้น “เกือบปกติ” ในปี 2559 จากการที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 2560-2561 จะเป็นปีที่หากสถานการณ์เอื้ออำนวย จะเป็นการกลับมาที่สวยงามครั้งใหม่ พร้อมกับอนาคตที่โดดเด่น ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม…
แม้ธุรกิจใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ถนัดเหมือนเดิมคือ เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า และแสงสว่าง…แต่ไม่ใช่ขายหลอดไฟ (ที่ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างเป็นสายใยดั้งเดิม) เท่านั้นเอง…เอาไว้เป็นสายใยเชื่อมกับลูกค้าและผู้บริโภคเดิมที่ยังต้องใช้หลอดไฟมีบัลลาสต์เหมือนเดิม
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างและปรับกลยุทธ์ธุรกิจของ TMI….ถือเป็นการสร้างโอกาสจากวิกฤตที่มีความหมาย…ใครไม่เคยผ่าน ย่อมจินตนาการไม่ออก
การกลับมาคึกคักรอบใหม่ของ TMI เริ่มต้นด้วยการขยายธุรกิจใหม่ โดยปรับโครงสร้างไป 3 ธุรกิจ คาดจะต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวในอนาคตราว 3-5 ปี
ธุรกิจใหม่แรก เริ่มด้วยการเป็นผู้แทนจำหน่ายและเป็นผู้ให้บริการหลังการขายสินค้ารายเดียวในประเทศไทย ของนวัตกรรม “ระบบอัจฉริยะเพิ่มอายุแบตเตอรี่” เป็นระบบที่วิจัยและผลิตโดยยักษ์ใหญ่ของจีน ชื่อ เต๋ออี้ (Deyee Technology (Beijing) Co., Ltd.)
นวัตกรรมที่ว่า มีความซับซ้อนมากทีเดียว…แต่อธิบายง่ายๆ ว่า ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของแบตเตอรี่โดยการคืนความจุ รวมทั้งยังบำรุงรักษาแบตเตอรี่ (BESS) โดยสามารถยืดอายุการใช้งาน และยังสามารถจัดการ และบำรุงรักษาแบตเตอรี่ผ่านระบบ Application BRMS ได้อีกด้วย
เมื่อติดตั้งระบบดังกล่าวให้กับแบตเตอรี่ใหม่ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 1 ปี จะสามารถเพิ่มอายุการใช้งานสูงสุด 3 เท่า ที่ความจุมากกว่า 60% และเมื่อติดตั้งกับแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งาน 2-3 ปี จะเพิ่มอายุการใช้งานสูงสุด 1 เท่า
สินค้านวัตกรรมนี้ เพิ่งเริ่มทำตลาดในเมืองไทย โดย TMI ดังนั้น จึงต้องผ่านกระบวนการ “ทดสอบตลาด” ไปก่อน …จึงตั้งเป้าหมายแบบชิวๆ…เป้ายอดขายปี 2560 นี้ ไม่ควรต่ำกว่า 10 ล้านบาท และตั้งเป้าต่อว่า หลังจากผ่านไปได้แล้ว มั่นใจว่า จะเติบโตต่อเนื่อง
นายธีระชัยระบุว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรุ่นแรกที่ต้องเจาะเข้าไปให้ได้ก่อนใครคือ ผู้ประกอบการที่ต้องสำรองไฟจำนวนมาก เพื่อฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) หรือใช้สำหรับอุปกรณ์ระบบขนาดใหญ่ที่ต้องสำรองไฟปริมาณที่สูง เช่น กลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคม, กลุ่มสื่อสาร, ธนาคาร, และหน่วยงานราชการต่างๆ เป็นต้น
ล่าสุดลูกค้ากลุ่มสื่อสารได้ตอบรับการทดลองใช้สินค้าเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งจะเริ่มในช่วงกลางเดือนนี้ไป
ถือเป็นช่วง “ทดลองชิม” ก่อนซื้อใช้จริง …ก็ละกัน
เทคโนโลยีดังกล่าว TMI เชื่อมั่นว่า จะสามารถพัฒนานวัตกรรมดังกล่าวให้สามารถกู้แบตเตอรี่เก่ามาใช้งานอีกครั้งได้ ซึ่งหากบรรลุเป้าหมายที่ว่าได้ดี จะเริ่มรุกอุตสาหกรรมรถแท็กซี่ เนื่องจากมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างใหญ่จึงน่าจะได้ผลตอบรับที่ดี และในอนาคตอาจกลายเป็น 1 ในธุรกิจหลักของบริษัท
นอกจากนั้น ยังมีสายงานใหม่ส่วนที่สอง คือ ธุรกิจพลังงาน ซึ่ง TMI เตรียมยื่นซองประมูลขอใบอนุญาตสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนราชการและสหกรณ์กำลังการผลิตรวม 1,000 MW โดยตั้งเป้าจะได้รับ PPA ราว 5 MW
ก้าวย่างต่อไปนี้ของ TMI จึงมีกลุ่มทุนจีนเคียงคู่ไปด้วยเสมอ ทั้งในด้านการเป็นพันธมิตรค้า และร่วมลงทุนด้วยกัน…เพียงแต่ คงไม่เกิดขึ้นรวดเร็ว เพราะต้องการเวลาต้าอวยกันพอสมควร
ราคาหุ้น TMI แถว 1.30 บาท จึงเป็นราคาที่ไม่สะท้อนอนาคต…แต่สะท้อนอดีตมากกว่า
“อิ อิ อิ”