AMA กตัญญูประกาศิต
หุ้น IPO ตัวสุดท้ายของปี 2559 อย่างบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ออกผลประกอบการไตรมาสแรกมาแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวัง ที่สำคัญ...ดีกว่าราคาคุยเยอะเลย
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
หุ้น IPO ตัวสุดท้ายของปี 2559 อย่างบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ออกผลประกอบการไตรมาสแรกมาแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวัง ที่สำคัญ…ดีกว่าราคาคุยเยอะเลย
งานนี้ ทำเอาพี/อี ที่สูงลิ่วระดับ เท่า ลดฮวบน่าทึ่งทีเดียว
นายพิศาล รัชกิจประการ …ดูนามสกุลคุ้นๆ ก็อย่าได้แปลก เพราะเป็นคนในตระกูลที่ถือหุ้นใหญ่ และบริหาร บริษัททำปั๊มน้ำมันอย่าง PTG นั่นเอง.. ในฐานะกรรมการผู้จัดการ AMA เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2560 ระบุว่า มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57 ล้านบาท เติบโต 280% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15 ล้านบาท
นายพิศาลพูดอย่างถ่อมตนว่า กำไรสวยดังกล่าว มาจากหลายทาง แต่ที่เด่นคือ กำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน และการควบคุมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ผิด….แต่ไม่ถูกเสียทีเดียว
หากดูจากการดำเนินงานปกติ จะเห็นว่าฝีมือของคนหนุ่มไฟแรงนำโดยนายพิศาล ไม่บันเบา เพราะ AMA มีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งทางบกในประเทศ และทางทะเลในระหว่างประเทศแถบอาเซียน อยู่ที่ 324.21 ล้านบาท เติบโต 78.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอยู่แค่ 181.80 ล้านบาท
รายได้ที่พุ่งแรง เนื่องจากการขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี เพิ่มถึง 2 ลำ เป็น 8 ลำ จากเดิม 6 ลำ และการเพิ่มรถบรรทุกขนส่งสินค้าให้กับทางบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เป็น 120 คัน จากเดิม 53 คัน
ผลลัพธ์จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ทำให้มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 90.30 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 49.73 ล้านบาท คิดเป็นมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตอยู่ที่ระดับ 27.85% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 27.35% เนื่องจากรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น
เพียงแต่รายได้อื่นๆ เช่นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากที่เคยขาดทุนปีก่อน 4.11 ล้านบาท มาเป็นกำไร 9.22 ล้านบาท ทำให้ EBITDA พุ่งแรงจากปีก่อน 25.49 ล้านบาท เป็น 71.18 ล้านบาท
ส่งผลให้กำไรสุทธิออกมาซาบซ่าสะแด่วแห้ว
เรียกว่า เก่งยังไม่พอ แถมเฮงด้วย
กำไรที่สวยงามท้าทายอนาคตอย่างนี้ ยังเป็นแค่จุดเริ่ม เพราะว่า ล่าสุด AMA ทุ่มงบ 390.17 ล้านบาท ซื้อเรือบรรทุกน้ำมัน 1 ลำ เพื่อขยายกองเรือรองรับธุรกิจขนส่งสินค้าเหลวทางทะเลให้มากขึ้น
ข้อมูลของ AMA ที่แจ้งตลาดฯ ระบุว่า ได้ซื้อเรือบรรทุกบรรทุกน้ำมันและสารเคมี MI Royal Pogasus ซึ่งเป็นเรือเก่า สร้างในปี 2551 ระวางน้ำหนักบรรทุก 13,250 เดทเวทตัน เรืองดังกล่าว จะมีอายุการใช้งานคงเหลือประมาณ 21 ปี
เมื่อซื้อมาแล้ว จะเปลี่ยนชื่อเรือใหม่เป็น “เรืออณิกา” ในภายหลัง และจะรับมอบเรือในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจขนส่งสินค้าเหลวทางทะเล โดยเรือลำดังกล่าวมีมูลค่าซื้ออยู่ที่ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 390.17 ล้านบาท
แหล่งเงินลงทุนซื้อเรือครั้งนี้จะมาจากเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยบริษัทมีแผนจะนำเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีที่ลงทุนซื้อครั้งนี้ ไปให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้น และภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา บังกลาเทศ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้น โดยที่รับรู้รายได้ทันที
เพียงแค่นี้ ก็เห็นได้ว่า อนาคตของAMA ยังเดินหน้าเป็นขาขึ้นและมีเสน่ห์ต่อไปอีกนานหลายปี
อนาคตสดใสของ AMA จากการที่กำไรเพิ่มโดดเด่น และพี/อีต่ำลง จนดันราคาหุ้นวิ่งต่อ จะทำให้ AMA กลายเป็น “ลูกกตัญญู” โดยปริยาย
เหตุผล เพราะจากโครงสร้างถือครองหุ้นจะพบว่า PTG มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (นอกเหนือจากการเป็นลูกค้าชั้นเลิศ) มีสัดส่วนหุ้นถึง24% ที่เหลือเป็นของตระกูลรัชกิจประการ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน … ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PTG นั่นเอง
งานนี้ รับรองคนในตระกูลรัชกิจประการอู้ฟู่แน่นอน ทั้งในส่วนของรับรู้เงินปันผลของทั้ง AMA และ PTG พร้อมกันไป … รวมทั้งมูลค่าหุ้นที่เพิ่มพูนขึ้นในฐานะทรัพย์สินแห่งความมั่งคั่ง
ยามที่ราคาหุ้นของทั้ง AMA และPTG ถดถอยสวนทางงบการเงินอย่างนี้ … ถือว่า เป็นจังหวะที่เปิดทางให้ซื้อ
ส่วนใครจะซื้อ หรือ เพราะเชื่อหรือไม่เชื่อ ใน “กตัญญูประกาศิต” หรือไม่… ห้ามกันไม่ได้
ของพรรค์นี้ มันขึ้นกับ …ลางเนื้อ ชอบลางยา