เคาะ 13 บจ.เด็ด หุ้นพลังงานดัน SET รีบาวด์
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีโอกาสเกิด Technical Rebound โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำตลาด จากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนเหตุระเบิดในประเทศคาดกระทบหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในกรอบจำกัด หากราคาหุ้นปรับลงเป็นโอกาสซื้อ การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกของปีออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50 และ SET100 รอบใหม่
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.77 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เปิดในแดนบวก ด้วยอานิสงส์จากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงบวกหลังสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีโอกาสเกิด Technical Rebound โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำตลาด จากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนเหตุระเบิดในประเทศคาดกระทบหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในกรอบจำกัด หากราคาหุ้นปรับลงเป็นโอกาสซื้อ การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกของปีออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50 และ SET100 รอบใหม่
หุ้นเด่นเลือก AOT-MINT-ERW-BIG-HANA-EA-BPP-MTLS-TISCO-BCPG-WORK-GFPT และ BCP
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (11 พ.ค.) ว่า ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์จะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่ให้จับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยดีมากนัก ขณะที่ทางเทคนิคของตลาดดูไม่ค่อยดี ไม่ควรจะหลุดแนวรับ 1,553 จุด หากหลุดมีโอกาสที่จะปรับตัวลงยาว ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,571 จุด ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ซึ่งปัจจัยนอกประเทศยังต้องติดตามเรื่องของสหรัฐฯต่อไป เนื่องจากเห็นได้ว่าทางญี่ปุ่น และยุโรปไม่อยากใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแล้ว
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 พ.ค.) ว่า ตลาดไม่ตอบสนองต่อปัจจัยบวกแต่พร้อมปรับลงเมื่อมีข่าวร้าย อย่างไรก็ตาม แนวรับจิตวิทยาที่ระดับ 1,560 จุดยังทำงานได้ดี ขณะที่วันนี้ไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่เข้าสู่ตลาด จึงมีโอกาสที่ดัชนีจะเกิด Technical Rebound โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวพยุงรับผลบวกราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแรง (+3.2%) หลัง EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาด ส่วนเหตุระเบิด Big C ปัตตานีคาดกระทบหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในกรอบจำกัด หากราคาหุ้นปรับลงเป็นโอกาสซื้อ (AOT MINT ERW)
กลยุทธ์ยังเน้น Selective หุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/17 จะออกมาดี (AOT, ERW, BIG, HANA) และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ SCB รับผลบวกดอกเบี้ยขาขึ้น, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ได้ผลบวกยอดขาย Semiconductor ปรับตัวขึ้นทำ New high และค่าเงินบาทอ่อนค่า, และหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (BCPG WORK GFPT) แต่สุดท้ายหากดัชนีที่ระดับ 1,560 จุด รับไม่อยู่อาจต้องลดพอร์ตและรอซื้อกลับบริเวณ 1,545 จุด/1,530 จุด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : MTLS (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/17 น่าจะออกมาดีเช่นเดียวกับ SAWAD เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 531 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน และ 90% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน นอกจากนี้ MTLS ยังเป็นตัวเต็งทีคาดว่าจะได้รับเข้าคำนวณในดัชนี SET 50 รอบใหม่, AOT (ซื้อ/เป้า 46.00 บาท) เก็งกำไรข่าวจ่ายค่าเช่าให้กับกรมธนารักษ์ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการดีต่อเนื่องรับนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียเริ่มกลับมา
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 พ.ค.) ว่าภาวะการลงทุนวันนี้คาดปรับตัวดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนผลการเลือกตั้งเกาหลีใต้นั้นน่าจะส่งผลบวกให้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีลดลง จากนโยบายรอมชอมกับเกาหลีเหนือ ประเด็นในประเทศวันจันทร์หน้า ติดตามรายงาน GDP ไทยไตรมาส 1/60 คาดขยายตัวมากกว่า 3 % กลยุทธการลงทุน ประเมินดัชนี SET ยังแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,555 จุด แนวต้าน 1,565 – 1,570 จุด แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบการลงทุน แนะนำซื้อ BCP (ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท) จากผลประกอบการไตรมาส 1/60 ดีกว่าคาดการณ์