ผู้ถือหุ้น BJC ไม่อนุมัติเข้าซื้อ”เมโทร เวียดนาม” ตามความเห็น IFA
ผู้ถือหุ้น BJC ไม่อนุมัติเข้าซื้อ"เมโทร เวียดนาม" ตามความเห็น IFA
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย.58 ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติ วาระที่ 10 พิจารณาว่าจะอนุมัติให้บริษัท และ/หรือ บริษัทย่อย เข้าซื้อเงินลงทุนในเมโทร เวียดนาม ในสัดส่วน 100% ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งทำขึ้นระหว่างบริษัท ทีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด กับเมโทร แคช แอนด์ แครี่ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง บี.วี. ลงวันที่ 18 ก.พ. 58 ด้วยคะแนนเสียงไม่อนุมัติ 89.2294% โดยวาระนี้ต้องมีคะแนนเสียงในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4
ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 เม.ย.บริษัท เจดี พาร์ทเนอร์ จำกัดและบริษัทแอดไวเซอรี พลัส จำกัด ในฐานะ IFA ได้พิจารณารายการซื้อเงินลงทุนในเมโทร เวียดนามตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับใหม่
แม้ว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทในหลายๆด้าน เช่น ทำให้ BJCก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการร้านค้าหรือศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่(Modern Grocery Market)รายใหญ่ของประเทศเวียดนาม ช่วยให้ BJC มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของตนเองในเวียดนามทั้งในรูปแบบค้าปลีกและค้าส่งทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตและกระจายสินค้าอย่างครบวงจรในเวียดนามและช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่
รวมถึงช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสการทำกำไรในอนาคตของกลุ่มบริษัท ประกอบกับมูลค่าการเข้าลงทุนใน เมโทรเวียดนามจำนวน 655.00 ล้านยูโร(ประมาณ 23,600 ล้านบาท) มีความเหมาะสม
เนื่องจากอยู่ระหว่างช่วงราคาที่เหมาะสมซึ่งประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระด้วยวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสด ซึ่งเท่ากับ 21,227 – 24,499 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเงื่อนไขการเข้าทำรายการตามสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับใหม่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบเชิงลบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานและสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจของ BJC ในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากเงื่อนไขของสัญญาเกี่ยวกับวิธีการชำระราคาซื้อขายเงินลงทุนที่อาจต้องชำระเงินเข้าบัญชีเงินทุน(Capital Account) ของเมโทร เวียดนาม ก่อนที่ทางการเวียดนามจะมีการออกใบอนุญาตลงทุนฉบับแก้ไข
โดยที่กรรมสิทธิของเมโทร เวียดนามก็ยังไม่ได้เป็นของ BJC และ/หรือบริษัทย่อยและในกรณีที่มีการยกเลิกสัญญาจะไม่สามารถได้รับเงินคืนได้ทันทีซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานานที่จะได้รับเงินดังกล่าวคืน
สำหรับเงื่อนไขสําคัญของสัญญาตามสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับเดิมที่เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 8 มกราคม 2558เปรียบเทียบกับเงื่อนไขตามสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับใหม่ที่จะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2558 ในวันที่ 17 เมษายน 2558 แสดงตามเอกสารแนบ
ดังนั้น ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระจึงเห็นว่า แม้ว่าการเข้าทำรายการจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท และมูลค่าการเข้าทำรายการมีความเหมาะสมแต่เนื่องจากเงื่อนไขการเข้าทำรายการตามสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับใหม่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบเชิงลบต่อฐานะการเงิน การดำเนินงานและสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจของบริษัทในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยจึงไม่ควรเข้าทำรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ หาก TCCH ยังคงดำเนินการต่อไปตามสัญญาที่ TCCH ได้ทำกับผู้ขายในการซื้อเงินลงทุนในเมโทร เวียดนาม เองบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยก็น่าที่จะได้รับประโยชน์ผ่านการลงทุนของ TCCH และยังเป็นการลดความเสี่ยงจากกรณีพิพาทใดๆ เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายเงินลงทุนฉบับเดิม ดังนั้นผู้ถือหุ้นจึงควรไม่อนุมัติการเข้าทำรายการรับโอนสิทธิและการเข้าซื้อเงินลงทุนในเมโทร เวียดนามในครั้งนี้