PF ลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือ1.66หมื่นลบ. เร่งเปิดโครงการใหม่ใน Q2/60
PF ลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือ 1.66 หมื่นลบ. จากเดิม 1.83 หมื่นลบ. เหตุภาพรวมตลาดอสังหาฯยังชะลอตัว ยังมองยอดขาย Q2/60 เติบโตจากไตรมาสก่อนหลังเปิดโครงการใหม่
นายธีรธัชช สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน สายงานลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายยอดขายปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.83 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกยังชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4/59
“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่มีปัจจัยที่มีนัยสำคัญเพียงพอจะช่วยผลักดันให้ฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังเห็นภาพเศรษฐกิจยังมีการชะลอตัวอยู่บ้าง ทำให้ความมั่นใจยังไม่กลับมา คนส่วนใหญ่จึงยังรอดูจังหวะที่เหมาะสม” นายธีรธัชช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะยังคงแผนการเปิดโครงการใหม่ตามแผนเดิมที่ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.99 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 10 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ แต่การเลือกเปิดโครงการจะต้องดูจังหวะและทำเลที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับภาพของตลาดมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/60 บริษัทคาดว่ายอดขายมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/60 เล็กน้อย จากการเปิดโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.32 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นแนวราบทั้งหมด และยังมียอดขายจากคอนโดมิเนียมที่เปิดไปในไตรมาส 1/60 จำนวน 3 โครงการเข้ามาสนับสนุน คาดว่ายอดขายคอนโดมิเนียมจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่มียอดขาย 411 ล้านบาท ส่วนยอดขายโครงการแนวราบคาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.5-1.6 พันล้านบาทใกล้เคียงกับไตรมาสแรก
ด้านรายได้ของบริษัทในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 1.92 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเริ่มโอนคอนโดมิเนียม Metro Sky ประชาชื่น ในช่วงปลายเดือน พ.ค.เข้ามาเสริม โดยโครงการดังกล่าวมียอดขายแล้ว 1.5 พันล้านบาทที่จะทยอยโอนเข้ามา
ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 5.35 พันล้านบาท ซึ่งจะโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ 5.15 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะไปโอนในปี 61 พร้อมมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 2.2 หมื่นล้านบาท
“เรามองว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น จากครึ่งปีแรกที่เรามองว่าผลงานของเรายังคงชะลอตัวอยู่ ซึ่งในครึ่งปีหลังการฟื้นตัวขึ้นในด้านยอดโอนจะเห็นการเติบโตมากขึ้น เพราะในช่วงครึ่งปีหลังโครงการแนวราบที่เปิดไปในช่วงต้นปีก็จะเริ่มมีการโอนเข้ามา และเรายังเปิดโครงการแนวราบเพิ่มอีกในช่วงครึ่งปีหลังอีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งก็จะมีรายได้เข้ามาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่มองว่าตลาดแนวราบยังสามารถไปได้ค่อนข้างดีกว่าตลาดคอนโดที่ยังมีปัญหาเรื่อง Over Supply และความเสี่ยงของปฏิเสธสินเชื่อที่ผู้ซื้อตอนที่เขาซื้ออาจจะเป็นช่วงดีของเขา แต่ตอนโอนอีกประมาณ 2 นี ก็มีความไม่แน่นนอนเรื่องการกู้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของยอดโอน ทำให้เรายังคงเน้นโครงการแนวราบมากกว่า เพราะเป็นดครงการที่ผู้ซื้อต้องการซื้เพื่ออยู่จริง และใช้ระยะเวลาการโอนเข้ามาค่อนข้างเร็ว”นายธีรธัชช กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าปัจจัยเสี่ยงสำหรับุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังน่ากังวล คือ กำลังซื้อของประชาชนในประเทศยังไม่เห็นสัญญาณที่จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งมีผลต่อการขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ของลูกค้าที่ยังเผชิญกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับสูง เพราะธนาคารพาณิชย์ยังคงต้องเข้มงวดการปล่อยสินเชื่ออยู่บ้าง หลังจากที่แนวโน้มของหนี้เสียยังเพิ่มขึ้นต่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่จะกระทบยอดโอนของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยนำโรงแรมเชอราตัน หัวหิน เข้าจัดตั้งกองทรัสต์ดังกล่าว มูลค่ากองราว 1 พันล้านบาท ปัจจุบันได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว คาดว่าจะเสนอขายหน่วยและเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส 4/60 และบริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษจากการจัดตั้งกองทรัสต์ทันที