GFPT กำไรปีนี้ยังแข็งแกร่งแนะซื้อราคาเป้าหมาย 19.10 บาท
GFPT กำไรปีนี้ยังแข็งแกร่งแนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 19.10 บาท
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17 พ.ค.) ว่า บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 เท่ากับ 424 ล้านบาท เติบโต 54%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหนุนผลประกอบการ ไตรมาส 1/60 คือ 1. ยอดส่งออกที่เติบโตดีขึ้นมาก ทั้งที่เป็นไก่แช่แข็งและปรุงสุก ซึ่งสามารถชดเชยกับธุรกิจอาหารสัตว์ที่อ่อนลงเพราะการแข่งขันที่สูงขึ้น 2. อัตรากำไรขั้นต้นใน ไตรมาส 1/60 อยู่ในระดับสูงที่ 15.3% ซึ่งเพิ่มจาก 11.5% ใน 1Q59 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำ และ 3. อัตราภาษีจ่ายที่ลดลงเป็น 5.2%
ปริมาณส่งออกไก่ในไตรมาส 1/60 เติบโตแกร่ง +44%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 7.5 พันตัน โดยในส่วนของส่งออกไก่สดแช่แข็ง +75%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1.4 พันตัน (ตลาดหลักคือมาเลเซีย) และส่งออกไก่ปรุงสุก +39%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 6.1 พันตัน (ตลาดที่โตสูงคือ ญี่ปุ่น)
ธุรกิจอาหารสัตว์มียอดขายชะลอตัวแต่ก็ทำกำไรได้ดี ใน ไตรมาส 1/60 ยอดขายอาหารสัตว์ (21% ของรายได้รวม) ลดลง 7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยชะลอตัวทั้งอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังมีกำไรเพราะต้นทุนวัตถุดิบไม่ได้สูงมาก
ยอดส่งออกเติบโตแข็งแกร่ง โดยการพบสารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ส่งออกของบราซิล ทำให้ผู้นำเข้าหันมานำเข้าไก่จากไทยมากขึ้น โดยบางส่วนมีแนวโน้มว่าจะเป็นการซื้อระยะยาวต่อเนื่อง ยังผลให้คาดว่าปริมาณส่งออกไก่ GFPT ปี60 จะเติบโตได้ 10%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (เราคาดว่าปริมาณส่งออกไก่ของ GFPT งวด ไตรมาส2/60 จะเพิ่ม 5-7%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 8 พันตัน และในไตรมาส3/60 เพิ่มอีก 10%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 9 พันตัน)
ราคาส่งออก & ในประเทศดีขึ้น ราคาส่งออกในช่วง ไตรมาส2/60 คาดว่าจะปรับขึ้นราว 100-200 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และทรงตัวได้ในช่วง 3Q60 เนื่องจากอุปสงค์ที่ดีขึ้น ราคาขายไก่สดและ By Products ในประเทศขยับขึ้นในเดือนเม.ย.-พ.ค.60 โดยราคาไก่เพิ่มเป็น 38-39 บาท/กก. (ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงอยู่ที่ 35-36 บาท/กก.) เป็นผลจากอุปทานในประเทศไม่ได้เพิ่มมากเนื่องจากอากาศร้อน, ไทยยังห้ามนำเข้าปู่ย่าพันธุ์จากสหรัฐและยุโรปบางประเทศ และผลผลิตถูกจัดสรรไปเพื่อการส่งออกมากขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้นสูงในปี 60 เพราะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทรงตัว โดยราคากากถั่วเหลืองไม่น่าจะปรับขึ้นแรงเพราะบราซิลเลี้ยงสัตว์น้อยลงหลังเจอปัญหาสารปนเปื้อนแล้วผู้นำเข้าลดการซื้อลง ขณะที่ราคาขายขยับขึ้นได้ เราประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นของปีนี้ไว้ที่ 15.95% (งวด ไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 15.3%)
ส่วนแบ่งผลกำไรเพิ่มขึ้นได้ใน ไตรมาส2/60 ทั้งนี้ใน ไตรมาส 1/60 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจาก GFN & McKey 82 ล้านบาท (ลดลงกว่า 20%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากราคาขายในประเทศของ GFN ลดลง ทำให้ส่วนแบ่งกำไรจาก GFN -67%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 17 ล้านบาท แต่ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey +20%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 65 ล้านบาท เพราะปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น) ส่วนแนวโน้ม ไตรมาส2/60 คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก GFN จะเพิ่มขึ้น เทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามปริมาณขายที่ทรงตัวแต่ราคาขายในประเทศที่ดีขึ้น ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey ทรงตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้า
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 19.10 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 13 เท่า โดยเราประมาณการว่ากำไรสุทธิปี 60 เติบโต 13% เป็น 1.85 พันล้านบาท (EPS 1.47 บาท/หุ้น) ถือว่าแข็งแกร่ง เพราะฐานกำไรปี 59 อยู่ในระดับสูงที่ 1.64 พันล้านบาท (+37%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) แต่ด้วยปัจจัยหนุนเรื่องอุปสงค์ไก่ส่งออกที่ดีเกินคาดทำให้ยอดขายเติบโตได้ดีต่อเนื่อง รวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ยังผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 60 ดีมาก ความเสี่ยงหลัก คือ ภาวะอุปทานล้นเกิน และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ผันผวน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทั้งสองเรื่องดังกล่าวในปีนี้ค่อนข้างต่ำมาก