ชาวสวนเริ่มทำงานโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นไปตามที่ “โมนิก้า” คาดการณ์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน แรงซื้อที่เข้ามาในเที่ยวนี้ยังเป็นแค่แรงเก็งกำไรสั้นๆ ไม่ใช่การซื้อลงทุนระยะยาว กองทุนในประเทศยังเน้นการเข้าทำแบบตีหัวเข้าบ้าน บวกกับที่ผ่านมากว้านซื้อหุ้นต้นทุนต่ำไว้ในพอร์ตเป็นจำนวนมาก เมื่อสบช่องได้โอกาสเทขายทำกำไรงามๆ ตลาดหุ้นถึงออกอาการเป๋อย่างที่เห็นไงหละคะ

*งานนี้ไม่โทษปัจจัยอะไรทั้งสิ้น และไม่โทษกลุ่มนักลงทุนต่างๆ เพราะโลกของการลงทุนก็เป็นเช่นนี้ คนที่อ่านเกมการเงินออกเป็นคนแรกๆ ย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่น อีกทั้งวันก่อนเพิ่งเม้าท์ถึงเรื่องสัญญาณเทคนิคไปหยกๆ จึงไม่แปลกใจที่วานนี้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,560.32 จุด ลบไป 6.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.88 หมื่นล้านบาท เพราะมันถึงเวลาทดสอบความแข็งแกร่งทางจิตใจแล้วนะซี

*เนื่องจากจุดรับของที่สำคัญทางจิตวิทยาอยู่ที่ระดับ 1,550 จุด หากวันนี้ดัชนีอ่อนตัวลงมาถึงบริเวณดังกล่าว ชาวสวนจะเริ่มทำงานเหมือนกับที่ตั้งปณิธานไว้หรือเปล่า? เพราะหลายครั้งที่ผ่านมามักเกิดอาการปอดแหกขึ้นมากะทันหัน ส่งผลให้พลาดโอกาสทองในการเก็บของถูก จนต้องวิ่งไล่ซื้อหุ้นที่ราคาแพง “โมนิก้า” บอกตามตรงว่า มันเป็นภาพที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านะจะบอกให้

*เหมือนกับการไล่ซื้อหุ้น PTT กับ PTTEP โดยใช้ทฤษฎีภูเขาสามลูกจะเห็นว่า ตัวแรกกำลังก่อตัวเป็นภูเขาที่สาม ตัวหลังกำลังจบภูเขาลูกที่สองอย่างช้าๆ ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่นักเล่นควรรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ หากมองสั้นๆ จังหวะนี้ยังไม่น่าเล่นอย่างแน่นอน ยกเว้นมองยาวๆ จังหวะนี้ต้องทยอยเก็บของ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับแยกแยะยุทธวิธีการลงทุนให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนนี้ เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดีแล้วไม่บอกเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์แสดงอาการคอพับคออ่อนกันเป็นทิวแถว “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักการลงทุนทุกประการ ในเมื่อผลงานไม่น่าประทับใจ หุ้นจะไปต่อได้อย่างไรกัน ตัวไหนผลงานแย่เหลือเกิน ก็ถูกลงโทษด้วยการเทขายทำกำไร และเหตุการณ์จะวนเวียนแบบนี้ต่อไปอีกพักหนึ่ง จนกว่าตัวธุรกิจจะพบกับจุดพลิกกลับที่สำคัญ จังหวะนั้นหุ้นจะวิ่งขึ้นอีกรอบนะจ๊ะ

*กรณีนี้คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ MTLS ภายใต้การบริหารจัดการของคุณพี่ “ชูชาติ” ประกาศแผนชัดแจนว่า ขอโตปีละกว่า 30% รวมเบ็ดเสร็จ 3 ปี จะโต 100% พร้อมกับประกาศชนทุกคู่แข่ง “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหุ้นกำลังย่ำฐานอยู่ที่บริเวณ 18.80 บาท ทั้งที่โบรกเกอร์สถาบันใหญ่ๆ ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาท มันเป็นจังหวะที่ชาวสวนต้องทำงานเต็มตัวอีกครั้งเจ้าค่ะ

 *อีกหนึ่งรายที่ต้องพูดถึงเป็นกรณีพิเศษ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นหุ้นสุดเลิฟอย่าง TTCL วันก่อนทำท่าจะหมดแรงข้าวต้ม พอเผลอแป๊บเดี๋ยว หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 36.75 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 8.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น มันเป็นจังหวะที่ต้องเล่นตามน้ำโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มีข่าวดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง ไม่เล่นได้ไงเจ้าค่ะ

 *สำหรับในรายของ IFEC หลังจากโลดโผนโจนทะยานได้พักใหญ่ๆ สุดท้ายก็โดนดักตีหัวอีกจนได้ งานนี้จับมือใครดมได้หรือเปล่า? หรือจะมีการป้ายขี้ให้กับใครอีกหรือไม่? “โมนิก้า” ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นอันขาด เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเดี๊ยนต้องออกมาอธิบาย แต่ที่รู้อย่างหนึ่งคือ หุ้นรูดลงมาปิดที่ 12 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 12.40% มันมากเกินไปสำหรับหุ้นที่วางตัวว่าจะโตกระฉูดในช่วงครึ่งหลังปี 58 งานนี้ใครคิดว่า ข่าวเม้าท์ที่นำเสนอเที่ยวนี้ไม่จริง แย้งกลับมาได้นะคะ

*ตบท้ายกันที่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของหน่วยงานเสือกระดาษสักเล็กน้อย เพราะคนที่รับไม้ต่อจากคุณพี่ “วรพล โสคติยานุรักษ์” ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน นั่นก็คือ  “รพี สุจริตกุล” คฑาชายผู้ซึ่งเคยนั่งในตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต. และยังเป็นศิษย์เก่าที่ผู้บริหารระดับสูงหลายรายคุ้นเคยเป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่คุณพี่นอนมาตั้งแต่ประกาศรายชื่อนะซี

 *งานนี้ไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมาประกอบการบรรยายให้เสียเวลา แค่รู้ไว้ว่า ถูกส่งมาทำงานบางอย่างเป็นการเฉพาะกิจ ลูกหม้อเก่าแก่อย่าง “ทิพย์สุดา ถาวรามร” ถึงต้องหลีกทางไปโดยปริยาย และทำให้ระหว่างทางก็เกิดข่าวลือมากมายหลายเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องที่เม้าท์ก็เกินเลยไปเยอะ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกแปลกใจที่ข่าวสารออกมาในโทนลบทั้งสองฝ่าย มันเหมือนยุให้แตกคอกันนะเนี่ย

*สรุปสุดท้ายคือ มีพวกหวังดีประสงค์ร้ายเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” ในฐานะคนข่าวถึงไม่แปลกใจที่แต่ละฝ่ายสะดุ้งโหย่งกันเป็นทิวแถว เพราะมันไม่มีมูลความจริงเลย! ส่วนใครจะเชื่อเรื่องการสาดโคลนใส่กันไปมา อันนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน เดี๊ยนไม่สามารถไปบังคับให้ทุกคนเชื่อตามได้หรอกค่ะ