สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ รวมทั้งความสามารถของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,663.02 จุด เพิ่มขึ้น 56.09 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,365.72 จุด เพิ่มขึ้น 8.69 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,055.13 จุด เพิ่มขึ้น 43.89 จุด หรือ +0.73%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยตลาดปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายปฏิรูปอื่นๆของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หลังจากนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 389.19 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,590.06 จุด ลดลง 41.55 จุด หรือ -0.33% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,289.73 จุด ลดลง 28.16 จุด หรือ -0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,436.42 จุด ลดลง 67.05 จุด หรือ -0.89%
ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.เป็นต้นมา ด้วยปัจจัยลบจากการที่เงินสกุลปอนด์แข็งค่าขึ้นทะลุ 1.30 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 8 เดือนเมื่อคืนนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 67.05 จุด หรือ -0.89% ปิดที่ 7,436.42 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด หลังจากสมาชิกโอเปกบางประเทศได้ออกมาส่งสัญญาณในการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 49.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 52.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นนั้น ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้เทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,252.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 23.6 เซนต์ หรือ 1.40% ปิดที่ 16.67 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 936.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 11.55 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 765.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.55 เยน จากระดับ 110.94 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9806 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9785 ฟรังก์สวิส
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1098 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1155 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2932 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2963 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7417 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7425 ดอลลาร์