สภาวิชาชีพบัญชีเจองานหิน! หลัง “ทวิช” ร้องตรวจงบIFECละเอียด

นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันด …


นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังนายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่องขอความร่วมมือกำกับการจัดทำงบการเงินของ IFEC ให้ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี

โดยสาระสำคัญในหนังสือระบุว่าผู้บริหารชุดปัจจุบันของ IFEC ได้กระทำการในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย มีการกีดกันข้อมูลข่าวสารและทำธุรกรรมที่เกินอำนาจ ขัดต่อทั้งข้อกฎหมายและข้อบังคับภายในกิจการ ดังนั้นเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของบัญชี งบการเงิน จึงต้องการให้สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานอิสระเข้ามาช่วย ติดตาม กำกับ ตรวจสอบบัญชีกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐาน

สำหรับประเด็นหลักๆ ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้องครบถ้วนได้แก่ 1.บันทึกรายได้ ค่าใช้จ่ายถูกต้องต้องครบถ้วนทุกรายการในงวดบัญชี 2.บันทึกรายจ่ายถูกต้องตามประเภทของรายการตามมาตรฐานบัญชี และต้องเป็นการจ่ายที่ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจแก่บริษัท มิใช่เพื่อบุคคลหรือกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ 3.การอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนกระทำโดยผู้มีอำนาจอนุมัติตามวงเงินที่กำหนดไว้เท่านั้น หากอนุมัติโดยคณะกรรมการควรมีการสอบทานว่าไม่ใช่การแอบอ้าง 4.การลงทุนในโครงการต่างๆ มีการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นธรรม มีการยื่นประกวดราคาสำหรับการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ที่มีราคาสูง มีการติดตามในกรณีส่งมอบไม่ครบถ้วน การจัดจ้างต้องว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์  การทำสัญญาไม่เอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้าง ส่วนประเด็นสำคัญคือ 5. การกู้ยืม , การนำทรัพย์สินของบริษัทไปค้ำประกัน และการให้กู้ยืม ต้องเป็นไปโดยปกติของธุรกิจที่บริษัทเคยกระทำมาเท่านั้น และได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจริงตามอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายของคณะกรรมการบริษัทในช่วงเวลาที่กระทำการ

“แม้ผมจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC  ไม่เปิดโอกาสให้ได้เข้าถึงข้อมูล หรือเปิดเผยข้อมูลให้รับทราบ จึงได้แต่คาดหวังว่า สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะเข้ามาควบคุมให้การตรวจสอบงบการเงินของ IFEC ให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี  เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือ การได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ย่อมทำให้การวางแผนแก้ปัญหามีภาพที่ชัดเจนและตรงจุดมากที่สุด การบริหารงานรวมถึงการตัดสินใจต่างๆ สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิผล ส่วนการปลดเครื่องหมายห้ามซื้อขายหรือ SP ก็น่าจะเกิดขึ้นได้โดยเร็วหลังจากมีการส่งงบการเงินที่ได้มาตรฐานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อบรรเทาผลกระทบนักลงทุนรายย่อย และฟื้นความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่จับตามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับ IFEC แท้ที่จริงแล้วเกิดขึ้นจากอะไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขในที่สุด”ผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC กล่าวในที่สุด

Back to top button