ผถห.รายย่อยหันซบอกนายกฯ-ภาครัฐ หวังขจัดปัญหา IFEC

กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เตรียมเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี รวมถึงองค์กรและหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยตรวจสอบและจัดการกับปัญหาของ IFEC ที่ผู้บริหารได้สร้างความเสียหายให้กับบริษัท หลังจากการยื่นข้อเรียกร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วแต่ยังไม่ได้การดำเนินการใด ๆ

นางนพวรรณ ขลันบุรีธรรม หนึ่งในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย IFEC เปิดเผยว่า หน่วยงานที่กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยจะเข้าร้องเรียนในครั้งนี้มีหลายแห่ง ทั้งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาช่วยเหลือ และเร่งรัดหน่วยงานกำกับดูแลให้เข้ามาแก้ไขปัญหา

นางนพวรรณ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ในฐานะประธานกรรมการ ส่อแววจะสร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะไม่สามารถปิดงบการเงินในปี 59 ให้ทันตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำหนด จนทำให้ถูกขึ้น SP มาถึงทุกวันนี้ และฝั่งของเจ้าหนี้ ทั้งหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท และเงินกู้ 1,800 ล้านบาท ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา IFEC จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้เพียง 10% เท่านั้น

ดังนั้น เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นรายย่อยและเจ้าหนี้ IFEC จึงได้ประชุมร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังมองไม่เห็นทางออกว่าประธาน IFEC จะจัดการอย่างไร และมีความจริงใจในการเร่งดำเนินการปิดงบการเงินให้ทันตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯหรือไม่ เพราะผัดผ่อนมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ และในวันที่ 31 พ.ค.ก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถปิดงบฯ ได้หรือไม่

นอกจากนี้ พฤติกรรมของนายวิชัย ในฐานะประธาน ซึ่งมีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับบริษัทฯ ได้ คือการนำหุ้นบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคปแมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ที่ถือหุ้นโรงแรมดาราเทวีในสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว  ไปจำนองกับ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์  เพื่อค้ำประกันหนี้ตั๋ว B/E มูลค่า 100 ล้านบาทที่ครบกำหนดในวันที่ 8  ก.พ.60 แล้วปล่อยให้ผิดนัดชำระหนี้

และการนำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของบริษัท ทรู เอ็นเนอร์ยี่ เพาวเวอร์ ลพบุรี จำกัด ไปเป็นหลักประกันกับ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เพื่อได้มาซึ่งเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 50 ล้านบาท

“จนถึงนาทีนี้ เราคงหวังพึ่งก.ล.ต.เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ในการประชุมร่วมกันมีข้อสรุปว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุน IFEC ต้องเข้าไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เร่งตรวจสอบการทำงานของนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ และให้เร่งปิดงบฯ เพื่อจะได้รู้สถานะที่แท้จริงของบริษัทว่ามีเกิดอะไรขึ้นบ้าง”นางนพวรรณ กล่าว