สังคมข่าวหุ้น

*เรื่องของ “การบินไทย” กับ “นกแอร์” ก็สมควรแล้วที่บินไทยจะไม่เพิ่มทุนให้ เพราะตัวเองนั้น ก็มีปัญหาอยู่ ยังไม่รวมถึงไทยสมายล์แอร์เวย์ที่ยังเป็นภาระต้องดูแล แต่ตอนนี้ทุกคนกลับจับตาไปที่นกแอร์ หรือ NOK มากกว่า ว่าจะทำต่อไปอย่างไร เพราะมติเพิ่มทุนที่เคาะออกมานั้นให้ทำแบบ RO ดังนั้น คนนอกไม่มีสิทธิ์จุ้น เว้นแต่ ผู้ถือหุ้นรายเดิมจะยอมเพิ่มสัดส่วนตนเองเข้าไป หรือไปแก้มติประชุมเดิม เปิดทางให้ผู้ถือหุ้นภายนอกเข้ามาถือหุ้นได้ งานนี้วัดฝีมือของ “พาที สารสิน” กันอีกรอบ


คาเฟอีน

*เรื่องของ “การบินไทย” กับ “นกแอร์” ก็สมควรแล้วที่บินไทยจะไม่เพิ่มทุนให้ เพราะตัวเองนั้น ก็มีปัญหาอยู่ ยังไม่รวมถึงไทยสมายล์แอร์เวย์ที่ยังเป็นภาระต้องดูแล แต่ตอนนี้ทุกคนกลับจับตาไปที่นกแอร์ หรือ NOK มากกว่า ว่าจะทำต่อไปอย่างไร เพราะมติเพิ่มทุนที่เคาะออกมานั้นให้ทำแบบ RO ดังนั้น คนนอกไม่มีสิทธิ์จุ้น เว้นแต่ ผู้ถือหุ้นรายเดิมจะยอมเพิ่มสัดส่วนตนเองเข้าไป หรือไปแก้มติประชุมเดิม เปิดทางให้ผู้ถือหุ้นภายนอกเข้ามาถือหุ้นได้ งานนี้วัดฝีมือของ “พาที สารสิน” กันอีกรอบ

*เรื่องของ IFEC ทำท่าจะบานปลาย เมื่อกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่ติดหุ้นอยู่ เอาเงินออกมาไม่ได้ เดินสายส่งหนังสือตั้งแต่สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา IFEC ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ “หมอวิชัย”  ให้หน่อย  ลำบากมาก เพราะจะพึ่ง สำนักงาน ก.ล.ต. ก็คงไม่ไหว กฎหมายไม่เปิดช่องให้เข้าไปจัดการอะไรได้มาก ส่วนหุ้นนั้นก็ถูกพักการซื้อขายมากว่า 5 เดือน งบการเงินปี 59 และไตรมาส 1/60 ก็ยังไม่ส่ง ยังไม่รวมปัญหาหนี้กับสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีรวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท

*แบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามนัดที่ระดับ 1.50% ส่วนบรรดานักวิเคราะห์ นักการเงิน ต่างก็คาดตรงกันว่า จะยังคงไม่มีการปรับขึ้นแน่นอนในปีนี้ เพราะเศรษฐกิจเอื้ออำนวย และในปี 61 ถึงจะมีกาปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ยังต้องจับตาเฟดด้วย เพราะหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้  ก็อาจเป็นแรงกดดันให้กับตลาดเงินของไทย และอาจทำให้แบงก์ชาติต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง เพื่อรักษาด้านเสถียรภาพตลาดเงินและตลาดทุนไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ท้าทาย ผู้ว่าการ ธปท. “วิรไท สันติประภพ” ยิ่งนัก

*หุ้น บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) ร่วงติดฟลอร์ หลังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกพาร์จาก 5 บาท เหลือ 1 บาท และหลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.82 แสนล้านบาท จากเดิม 4.25 หมื่นล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 239,420 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท พร้อมจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 157,300 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 5 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.013 บาท มีแถมวอร์แรนต์ให้ด้วย

*ฟันธง!! มาจากบอส “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” จาก บมจ.ช ทวี (CHO) ว่าปีนี้จะมีกำไรกระเป๋าตุงแน่นอน จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 91.29 ล้านบาท หลังจากจะลดต้นทุน พร้อมทั้งเตรียมยื่นประมูลรถเมล์ NGV ของขสมก. จำนวน 489 คัน และรถลำเลียงในสนามบินต่างประเทศหลายแห่งทั้งในฮ่องกง, สิงคโปร์ และเวียดนาม

*บรรณรงค์ พิชญากร เอ็มดีค่ายหลักทรัพย์บัวหลวง กำลังปลื้มกับลูกค้าที่มาเปิดบัญชีฯกับหลักทรัพย์บัวหลวงอย่างล้นหลาม จนคว้ารางวัลเปิดบัญชีหุ้นสูงสุด “SET Broker Champion” ได้อีกครั้งจากงานมหกรรมการเงินครั้งใหญ่อย่าง Money Expo 2017

*ข่าวด่วน! บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์  หรือ INTUCH แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้รับทราบและอนุมัติการขอลาออกของ “ฟิลิป เชียง ชอง แทน” จากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ส่วนเหตุผลไม่ได้มีอะไรมาก เพราะเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องสุขภาพจริงๆ จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด และจะใช้เวลาในการรักษาและพักฟื้นเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ บอร์ดจึงมีมติแต่งตั้ง “เอนก พนาอภิชน” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี ดำรงตำแหน่งรักษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน มีผล 1 ก.ค. 60

*หลังการลาออกของ สมบัติ นราวุฒิชัย (อดีต) เลขาฯ กบข. ก็มีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า บอร์ด กบข.พอใจกับผลงานการบริหาร โดยเฉพาะด้านผลตอบแทน แต่กลับมามี “ข่าวลือ” ที่ปล่อยจากคนใน ออกมาเกี่ยวกับเรื่องพนักงาน กบข.ไม่ชอบนายสมบัติ ซึ่งทางพนักงานต่างก็งงๆ ว่า ใครไม่ชอบ..! จนนำไปสู่การไม่ต่อวาระให้ แต่เรื่องนี้คนที่จะให้คำตอบดีที่สุดของเรื่องนี้คือปลัดคลัง “สมชัย สัจจพงษ์” นั่นเอง

Back to top button