SCBLIFE ปรับโครงสร้างใหม่สำเร็จรุกสร้างช่องทางตัวแทนโตแข็งแกร่ง
นายวิชัย ชีวศรีรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานตัวแทนประกันชีวิต บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างช่องทางตัวแทนใหม่รับปีแห่งการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวแทนของบริษัทนั้น บริษัทพร้อมรุกเดินหน้าการทำงานภายใต้ช่องทางใหม่อย่างเต็มตัวร่วมกับผู้บริหารตัวแทนระดับผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขายอาวุโส (EGRD - Executive Group Director) ที่ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงสร้างใหม่กับบริษัทครบสมบูรณ์ทั้ง 101 คนแล้ว แผนการดำเนินงานขั้นต่อไป บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับผู้บริหารตัวแทนอย่างใกล้ชิด ผ่านเวที EGRD Forum และ Leader Forum ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้มีการวางแผนการทำงาน และกำหนดกลยุทธ์ของช่องทางตัวแทนร่วมกัน
นายวิชัย ชีวศรีรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานตัวแทนประกันชีวิต บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างช่องทางตัวแทนใหม่รับปีแห่งการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวแทนของบริษัทนั้น บริษัทพร้อมรุกเดินหน้าการทำงานภายใต้ช่องทางใหม่อย่างเต็มตัวร่วมกับผู้บริหารตัวแทนระดับผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขายอาวุโส (EGRD – Executive Group Director) ที่ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงสร้างใหม่กับบริษัทครบสมบูรณ์ทั้ง 101 คนแล้ว แผนการดำเนินงานขั้นต่อไป บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับผู้บริหารตัวแทนอย่างใกล้ชิด ผ่านเวที EGRD Forum และ Leader Forum ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้มีการวางแผนการทำงาน และกำหนดกลยุทธ์ของช่องทางตัวแทนร่วมกัน
โดยได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และจัดต่อเนื่องในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับด้วยดีจากผู้บริหารบริษัทและผู้บริหารตัวแทนจากทั่วประเทศกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม พร้อมกำหนดแผนงานหลักผ่าน 4 กลยุทธ์ เพื่อสนับสนุนการทำงานของตัวแทนอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่
1. กลยุทธ์ด้านการสร้างแรงจูงใจในการผลิตผลงานคุณภาพ ผ่านทริปการแข่งขัน
มุ่งเน้นสร้างการเติบโตของธุรกิจใหม่ในเชิงคุณภาพ ผ่านการจัดแคมเปญการแข่งขัน และทริปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการผลิตผลงานรายใหม่ โดยใช้เกณฑ์การวัดผลงานคำนวณจากเบี้ยปีแรก (FYP – First Year Premium) ซึ่งเป็นการวัดผลงานเชิงคุณภาพ ควบคู่กับเกณฑ์การวัดตัวอื่นๆ อาทิ จำนวนเบี้ย จำนวนราย อัตราการทำงาน อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ อัตราการสรรหาตัวแทน อัตราการสร้างทีมงาน เห็นได้จากผลลัพธ์ที่น่าพอใจขึ้นภายหลังปรับวิธีคิดผลงานการแข่งขัน อาทิ ในช่วงไตรมาสแรกของปี ช่องทางตัวแทนมีอัตราการทำงาน (Active Ratio) ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่มกราคม ถึงมีนาคม มีอัตราการทำงานเพิ่มเป็น 23% 31% และ 45% ตามลำดับ
2. กลยุทธ์ด้านยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยออกสินค้าใหม่ ควบคู่พัฒนาสินค้าเดิม ภายในปี 2558 นี้ บริษัทได้วางแผนออกสินค้าใหม่สำหรับช่องทางตัวแทน ควบคู่ปรับปรุงสินค้าเดิมที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า รวมทั้งสิ้น 7 แบบประกัน อาทิ แบบประกันเพื่อการวางแผนเกษียณ แบบประกันที่เน้นเรื่องความคุ้มครอง และแบบประกันสะสมทรัพย์ที่มีกำหนดระยะเวลา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดให้กับตัวแทน สามารถนำเสนอแบบประกันที่หลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซ็กเม้นท์ได้อย่างคลอบคลุม โดยในช่วงต้นของไตรมาสสองนี้กำลังจะออกสินค้าใหม่ 2 ตัวเพื่อช่วยเสริมความพร้อมในการทำตลาดให้แก่ตัวแทน และกระตุ้นยอดขายรองรับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี
3. กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย หนุนเปิดสำนักงานตัวแทน (Agency Office) ทั่วประเทศเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่มุ่งขยายพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสนับสนุนให้ผู้บริหารตัวแทนระดับ EGRD ทำการเปิดสำนักงานตัวแทน (Agency Office) ในรูปแบบ Franchise Model เพื่อยกระดับตัวแทนสู่คู่ค้า โดยบริษัทช่วยลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเป้าหมายมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยบริการที่สะดวก รวดเร็ว ครบวงจรได้ดียิ่งขึ้น โดยในไตรมาสแรกจะเปิดสำนักงานตัวแทนแห่งใหม่ 8 แห่ง และตั้งเป้าเปิดสำนักงานตัวแทนให้ครบทั้ง 20 แห่ง ภายในสิ้นปี 2558 นี้ จากเดิมที่มีอยู่ 20 แห่ง รวมเป็น 40 แห่งทั่วประเทศ
4. กลยุทธ์ด้านการพัฒนาฝ่ายขาย รุกเปิดศูนย์การเรียนรู้ (Training Hub) 6 แห่ง ทุกภาคเช่นเดียวกัน ด้านกลยุทธ์การฝึกอบรม บริษัทได้เตรียมเปิดศูนย์ฝึกอบรมตัวแทนแห่งใหม่อีก 6 แห่ง ในจังหวัดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางแต่ละภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น หาดใหญ่ ชลบุรี และกรุงเทพฯ เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการด้านการฝึกอบรมพัฒนาขีดความรู้ความสามารถของตัวแทน รองรับยุทธศาสตร์ด้านการสรรหา และการสร้างทีมให้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมมุ่งหวังดึงคนรุ่นใหม่ Gen-Y เข้ามาเสริมทัพให้ครบทุกจังหวัด เพื่อขยายฐานการเข้าถึงลูกค้าและผู้มุ่งหวังที่เป็นคนรุ่นใหม่รองรับการเติบโตของธุรกิจระยะยาว
นายวิชัย กล่าวปิดท้ายว่า จากกลยุทธ์ข้างต้น ผนวกกับการมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนในการร่วมมือรุกสู่เป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้โครงสร้างใหม่ร่วมกัน SCBLIFE จึงมั่นใจว่า นับจากนี้ เป็นการวางรากฐานสร้างการเติบโต และพลิกโฉมช่องทางตัวแทนประกันชีวิตของ SCBLIFE ให้ยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น