PTTGC จ่อเข้าถือหุ้น”เหมืองโปแตช”ครม.ไฟเขียวบ.ลูกรสก.ถือแทนก.คลังได้!

สืบเนื่องจากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติให้รัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลเข้ามาร่วมถือหุ้นใน บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือ APOT ร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยหน่วยงานที่จะเข้ามา คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT

ต่อมา เมื่อวันที่ 29 พ.ค.60 PTTGC ได้ออกมาปฏิเสธ ว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมของฝ่ายจัดการของบริษัท เนื่องจากการลงทุนใดๆ ต้องเป็นไปตามกระบวนการลงทุนของบริษัท และสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัท

ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (6 มิ.ย.) มีมติเห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเพื่อเพิ่มทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนของ APOT ที่มีแผนเพิ่มทุนในระยะที่ 2 ที่จะต้องระดมทุนจากผู้ถือหุ้นอีกประมาณ 18,063 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทยจะต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้นในอัตรา 20% ตาม Basic Agreement รวมทั้งสิ้น 3,612.73 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มระดมทุนงวดแรกในช่วงไตรมาส 3/60

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระของรัฐบาล จึงเห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้ผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลไทยตาม Basic Agreement หมายความรวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของไทย (รสก.) และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล ที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นในสัดส่วนที่มีอำนาจในการควบคุมจัดการ

ทั้งนี้ ครม.เห็นชอบหลักการเปิดทางรัฐวิสาหกิจและนิติบุคคลที่รัฐหรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 48% เพื่อเข้าถือหุ้นในเหมืองโปแตช

ขณะที่ ตรวจสอบพบว่า PTT เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และถือหุ้นใหญ่ใน PTTGC สัดส่วน 48.89% ซึ่งถือว่าเข้าข่ายข้อกำหนดหลักการของครม.ที่อนุมัติในวันนี้ อีกทั้งธุรกิจของ PTTGC มีความคล้ายคลึงกันกับธุรกิจของ APOT จึงมองว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอด เพื่อพัฒนาธุรกิจดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

อนึ่ง PTT เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และถือหุ้นใหญ่ใน PTTGC สัดส่วน 48.89% ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า PTTGC จะเป็นผู้เข้ามาถือหุ้นในเหมืองโปแตชแทนกระทรวงการคลัง