เคาะ 19 หุ้นเด็ด SET อ่อนตัว จับตา 3 ประเด็นใหญ่ตปท.
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรง ขณะที่ตลาดติดตาม 3 ประเด็นใหญ่จากต่างประเทศ การลงทุนแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงกลุ่มที่แนวโฯ้มกำไรไตรมาส 2 จะออกมาดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.03 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตา 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรง ขณะที่ตลาดติดตาม 3 ประเด็นใหญ่จากต่างประเทศ การลงทุนแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงกลุ่มที่แนวโฯ้มกำไรไตรมาส 2 จะออกมาดี หุ้นเด่นเลือก SEAFCO-SAWAD-THANI-MTLS-LIT-HANA-BPP-ORI-EA-BPP-MTLS-TISCO-WORK-GFPT-AAV-TASCO-TVO-GFPT และ TFG
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (8 มิ.ย.) มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา และเชื่อว่า Fund Flow จะชะลอตัวด้วย เนื่องจากต้องการรอดู 3 เหตุการณ์สำคัญในวันนี้ ทั้งเรื่องการเลือกตั้งในอังกฤษ, การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ว่า ตลาดหุ้นโลกมีความเสี่ยงผันผวนเพิ่มขึ้นระยะสั้น จาก 1) ผลการเลือกตั้งอังกฤษ 2) การประชุม ECB 3) การให้ปากคำของอดีต ผอ.FBI เจมส์ โคมีย์กรณีแชร์ข้อมูลระหว่างทรัมป์กับรัสเซีย และ 4) สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล กดดันราคาน้ำมัน Brent -4.1% ใกล้จุดต่ำสุดตั้งแต่ต้นปีกดดันกลุ่มพลังงาน ขณะที่ภาพ SET ต้องระวังการอ่อนตัวหลุดแนวรับที่ 1,564 จุด จะทำให้ความเสี่ยงการแกว่งตัวด้านลบเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ECB มีแนวโน้มปรับลดประมาณการเงินเฟ้อลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่เงินเฟ้อในประเทศเดือน พ.ค. -0.04% y-y และคาดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วง 2H17 เนื่องจากฐานราคาน้ำมันที่สูงใน 2H16 ลดแรงกดดันขึ้นดอกเบี้ย ธปท.เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มMicro finance และ Leasing.แนะนำ “ซื้อ” MTLS (คาดถูกเพิ่ม SET50) TISCO SAWAD THANI (PE17 ต่ำ 14 เท่า ปันผล 4.3%) LIT (ออก warrant ปลด ล็อกฐานทุน คาดกำโตสูง 60% ปีนี้) และ KKP (ปันผลกลางปี 3%) ขณะที่กลุ่มรับเหมาฯ ยังแนะนำ “ซื้อ” SEAFCO เป้าหมาย 14 บาท ต่อไป
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) คงมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 4 – 5% เมื่อคืนเนื่องจากสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง จะเป็นปัจจัยลบกลับมากดดัน Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันเราคาดว่า นักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนกับ 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ คือ 1) นายเจมส์ โคมี อดีต ผอ.FBI จะเข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐต่อประเด็นรัสเซีย 2)เลือกตั้งอังกฤษ และ 3) ประชุม ECB
โดยตลาดจะให้น้ำหนักไปที่ประเด็นแรกมากที่สุดเพราะจะมีผลต่อเนื่องไปถึงตำแหน่ง ประธานาธิบดีของโดนัลทรัมป์ และมีผลต่อนโยบายและเศรษฐกิจของสหรัฐ ภาพรวมการลงทุนจะยังเป็นการเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก โดยเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี (MTLS HANA BPP ORI) หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BPP (ซื้อ/เป้า 28) คาดงบ 2Q17 พุ่งทำสถิติสูงสุดของปี จาก 1) อัตราการผลิตของโรงไฟฟ้าหงสาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 90% จาก 77% ในไตรมาส 1/17 และ 2)อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งอัตราค่าไฟจะเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าร้อน
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ประเมินดัชนี SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,575 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นระหว่างรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ แนะนำเก็งกำไร AAV, TASCO (+ ราคาน้ำมัน WTI วานนี้ -5.1 %) TVO, GFPT, TFG (+ เงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ราคาต้นทุนวัตถุดิบลดลง)