MEGA บวก 5.45% ลุ้นกำไร Q2 โตแกร่ง โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ”

MEGA บวก 5.45% ล่าสุด ณ เวลา 15.49 น. ราคาอยู่ที่ 29.00 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 5.45% สูงสุดที่ 29.25 บาท ต่ำสุดที่ 27.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 269.89 ล้านบาท โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชูเป้า 30 บาท คาดกำไร Q2 โตแกร่ง จากการควบรวมผลประกอบการของ Bio-Life เต็มไตรมาส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ณ เวลา 15.49 น. ราคาอยู่ที่ 29.00 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 5.45% สูงสุดที่ 29.25 บาท ต่ำสุดที่ 27.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 269.89 ล้านบาท

โดย นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEG เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5-10% จากปี 59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 8,842.40 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่น่าจะเติบโตราว 5-10% เช่นกัน จากปีก่อนอยู่ที่ 794.91 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตทั้งยอดขายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีสัดส่วนยอดขายมากกว่า 80%

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในปีนี้ราว 5-10 รายการ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ออกไปแล้วจำนวน 4-5 รายการซึ่งสินค้าก็เริ่มติดตลาดมากขึ้น ขณะที่บริษัทฯ มีการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในทวีปแอฟริกา โดยจะเน้นเจาะตลาดแอฟิกาตะวันออก และตะวันตก จากปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศหลักๆ ได้แก่ เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าที่ประเทศเมียนมา มูลค่าลงทุนราว 540 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างราว 1 ปี เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าในประเทศดังกล่าวต่อไป ขณะเดียวกันก็เตรียมดำเนินการสร้างคลังสินค้าในประเทศไทย คาดใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้เข้าซื้อที่ดินติดกับโรงงานของบริษัทฯ แล้ว ซึ่งน่าจะสามารถก่อสร้างได้เร็วๆนี้

อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนเข้าซื้อกิจการในธุรกิจยา ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดการเติบโตในอนาคต โดยมีความสนใจในประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้

 

ด้าน บล. กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 32 บาท/หุ้น โดยจากงาน Opportunity day ของ MEGA เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ข้อความจากผู้บริหารได้ยืนยันมุมมองในด้านต่างๆดังนี้ การเติบโตของรายได้ Maxxcare ที่ 14% ในปีนี้ เนื่องจากได้ลูกค้าใหม่มาจำนวนหนึ่งเพื่อชดเชยการเสียลูกค้ารายหนึ่งไปเมื่อต้นปี 2560 ขณะที่ Synergy กับ Bio-Life ที่คาดจะเกิดขึ้นในปี 2561 และการฟื้นตัวของตลาดไนจีเรียนในปีนี้

โดยในช่วงสั้นฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2560 จะเติบโตได้ทั้งจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน หลังจากช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 1/2560 และจากการควบรวมผลประกอบการของ Bio-Life เต็มไตรมาส

Back to top button