EARTH มลพิษ บี/อี
การแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ของนายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เมื่อค่ำวันที่ 7 มิถุนายน ว่าได้ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วสัญญาแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) จำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 40 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.95% ต่อปี ที่ออกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 และถึงกำหนดชำระวันที่ 6 มิถุนายน 2560 กลายเป็นปริศนาที่ทำให้คนที่รู้จักกับผู้บริหารและบริษัทนี้มายาวนานกว่า 6 ปี พากันตกตะลึง ตึง ตึง อย่างแรงเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
การแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ของนายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เมื่อค่ำวันที่ 7 มิถุนายน ว่าได้ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วสัญญาแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) จำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 40 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.95% ต่อปี ที่ออกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 และถึงกำหนดชำระวันที่ 6 มิถุนายน 2560 กลายเป็นปริศนาที่ทำให้คนที่รู้จักกับผู้บริหารและบริษัทนี้มายาวนานกว่า 6 ปี พากันตกตะลึง ตึง ตึง อย่างแรงเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
ครั้งแรกที่ทำให้ตกละลึงช็อกโลกคือ เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมนี้เองเมื่อเกิดปฏิบัติการขายแบบ Forced selling ออกมากว่า 1 พันล้านบาท จนกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่มีสัดส่วนหุ้นลดฮวบฮาบจาก 45% เหลือแค่ 30% เพราะประเด็นการลงทุนในธุรกิจส่วนตัว
เป็นไปได้อย่างไรกันที่บริษัทที่มียอดขายถ่านหินมากกว่า 10 ล้านตันต่อปี และปีนี้เพิ่งจ่ายปันผลไป 350 ล้านบาท มียอดขายไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน จะไม่มีเงินชำระหนี้ตั๋ว บี/อี แค่ 40 ล้านบาท …แล้วก็ตามมาด้วยผิดนัดอีกครั้งวานนี้ที่ 8 มิถุนายน สำหรับหนี้ตั๋วบี/อีเช่นเดิม อีก 50 ล้านบาท
งบการเงินไตรมาสแรกที่ผ่านมือผู้ตรวจสอบบัญชีมาแล้ว ก็ระบุว่าสุขภาพทางการเงินยังแจ๋วแหวว เพราะมีกำไรสะสมอยู่ 3,897.33 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 10,686 ล้านบาท มี current ratio 1.1 เท่า ไม่ขาดแคลนเงินสดแน่นอน …แต่จู่ๆ มายอมรับหน้าตาเฉยว่า ขาดสภาพคล่อง…บ่อจี๊เลี้ยว
ไม่แปลกตอนนี้ จะแปลกตอนไหน
เจ้าหนี้รุ่นเก่าของวงการตั๋ว บี/อี ที่รู้จัก EARTH ดี ก็งงหนักชนิด “อึ้งกิมกี่” เพราะ ตามประวัติเก่า และสถิติแล้วตั๋วบี/อีที่ผ่านมาของบริษัทนี้ มากกว่า 4 พันล้าน…ชำระไปครบถ้วน ไ ม่เคยมีประเด็นให้กังขาเลย..ทำไมกะอีแค่ 40.00 ล้านบาท ไม่มีจ่าย..
งึดดดดด..ว้อย!!!!!
ประเด็นของ EARTH ยามนี้ มี 3 ประเด็นหลักที่ต้องตอบโจทย์โดยเร็วสุดคือ
-หนี้ตั๋วบี/อี 7 รายการ ที่มีวงเงิน 520 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคมนี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 รายการแรก ที่จะสิ้นสุด 12 กรกฎาคม ซึ่งจะเกิน 300 ล้านบาท ที่อาจจะทำให้เจ้าหนี้รายอื่นเรียกชำระหนี้ในทันที หรือ Call Default x จะแก้ไขได้ราบรื่นแค่ไหน โดยไม่ลุกลามเป็น “โดมิโน เอฟเฟ็กต์”
-บริษัทซื้อถ่านหินมา เพื่อขายไป ทำไมจึงวางแผนหมุนเงินให้สะดุดได้ ผิดวิสัยอย่างยิ่ง
-เงินสดหายไปไหนเพราะมีทั้งหุ้นกู้ระยะยาว 5,750 ล้านบาท และเครดิตไลน์จากธนาคารกสิกรไทยสาขาในจีน 2,440 ล้านบาท รองรับอยู่
คำถามดังกล่าว ยังไม่มีใครเฉลยตอบ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ ผลลัพธ์ทันทีในฐานะปฏิกิริยาเข่ากระตุก
เรื่องแรกเกิดไปแล้ววานนี้ ราคาหุ้นร่วงติดฟลอร์ 29.61% นับแต่เปิดตลาดมา แล้วก็มีคนลากมา “ออกของ” ในระหว่างการซื้อขาย ก่อนจะร่วงกลับลงไปปิดที่ฟลอร์ 1.45 บาท
เรื่องหลัง ทริสเรทติ้ง ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไป 11 อันดับ จากเดิม BBB- เป็น D อ้างเหตุว่า เนื่องจากบริษัทไม่สามารถชำระหนี้หรือต่ออายุ ภายใต้เงื่อนไขว่า จะประเมินอันดับเครดิตองค์กรของEARTH อีกครั้ง “…เมื่อบริษัทสามารถจ่ายคืนหนี้เงินกู้ที่ค้างชำระอยู่ได้ครบเต็มจำนวน..”
โดย ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2560 บริษัทมีภาระหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) และหุ้นกู้ที่จดทะเบียนกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยรวมทั้งสิ้น 7,508 ล้านบาท
ที่สำคัญ ภาระต้นทุนทางการเงินจากการผิดนัด ก็จะเพิ่มจากดอกเบี้ยจ่าย อัตราเดิม 3.95% ต่อปี เป็น 7.5% ในทันที
นับจากนี้ไป นายขจรพงศ์ คำดี ประธานกรรมการบริหาร และคณะ คงต้องเหนื่อยและเครียดหนักกับหนี้ระยะสั้น และชื่อเสียงที่ยับเยิน นับจากนี้ไป เนื่องจากมอร์นิ่ง สตาร์ กลายเป็น …ดาวตก…กะทันหัน
ขนาดบรรดาเจ้าหนี้…ยังตั้งตัวไม่ทันเล้ย
อิ อิ อิ