SET ทรงตัวในกรอบ เลือกซื้อ 12 หุ้นเทรนด์ดี

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งในกรอบเดิมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดกำลังรอดูผลการประชุมเฟด และขาดปัจจัยหนุนใหม่ และนำเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และสัญญาณเทคนิคดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.95 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะมีขึ้นในวันที่ 13 – 14 มิ.ย. โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งในกรอบเดิมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดกำลังรอดูผลการประชุมเฟด และขาดปัจจัยหนุนใหม่ และนำเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และสัญญาณเทคนิคดี หุ้นเด่นเลือก DTAC, AMATA, AMATAV, WHA, EA, BPP, MTLS, TISCO, WORK, GFPT, IHL และ SAMART

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (13 มิ.ย.) มีแนวโน้มแกว่งในกรอบเดิมที่แนวรับ 1,558 – 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด เนื่องจากตลาดฯกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แม้ว่ารอบนี้ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ให้รอดการส่งสัญญาณต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการลดขนาดของงบดุลว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด

นอกจากนี้ หุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐก็เริ่มปรับฐาน ซึ่งการลงทุนคงจะอิงประเด็นเฉพาะตัวมากกว่า โดยให้เลือกเล่นเป็นรายตัวที่อิงกับสถานการณ์ เนื่องจาก Fund Flow ยังไม่เข้าตลาดหุ้น แต่เข้ามายังตลาดตราสารหนี้ พร้อมให้ติดตามกรณีปัญหาของตั๋วแลกเงิน (B/E), สถาบันการเงิน และสินเชื่อ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก – ลบ

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 มิ.ย.) ว่า แม้ SET จะหลุดแนวรับที่ 1,564 จุด ลงมาเล็กน้อย แต่ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ทำให้ยังมองว่า SET ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ต่อไป ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ย Fed 14 มิ.ย.นี้กระทบ SET จำกัด เน้น “Selective”

แนะนำ 1) “ซื้อ” DTAC ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 65 บาท จาก a) มองการแข่งขันในกลุ่มรุนแรงน้อยลง ขณะที่ DTAC เน้นการทำ “กำไร” จากลูกค้า postpaid เพิ่มขึ้น b) การทำสัญญาเช่าคลื่น 2300MHz กับ TOT ไปอีก 8 ปี เป็นการปลดล็อก valuation ที่ต่ำเพียง EV/EBITDA 5x ในปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 7.5x และ c) แม้กำไรยังอ่อนแอ แต่จะกลับมาขยายตัวแกร่งตั้งแต่ 4Q18 หลังไม่ต้องตัดค่าเสื่อมฯคลื่นที่หมดอายุไป ขณะที่ EBITDA ยังแข็งแกร่งระดับ 2.7 หมื่นล้าน/ปี

2) “ซื้อ” AMATA (ผลดี EEC), WHA (Laggard play ในกลุ่ม และคาดการณ์กำไร 2Q17 ขยายตัวแกร่ง) AMATAV (ยอดขายที่ดิน 5M17 ดีกว่าที่คาด) และ EA (หาดกังหัน#2 เริ่มผลิตไฟฟ้า และจะถูกเพิ่มน้ำหนักใน FTSET)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (13 มิ.ย.) คงมุมมองเป็นกลางต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 คาด SET ยัง Sideways ในกรอบ +/-5 จุด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ นักลงทุนทยอยขายปรับพอร์ตและชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมของ Fed ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. สิ่งที่ตลาดสนใจไม่ใช่การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้แต่อยู่ที่การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนถัดไป รวมถึงการลดขนาดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งประเด็นนี้เรามองเป็นลบกับตลาดหุ้น (ลดขนาดงบดุล ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลง Bond yield และอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเงินดอลาร์สหรัฐแข็งค่ากดดันให้ค่าเงินบาทอ่อน และ Fund Flow ไหลออก)

อย่างไรก็ตา เชื่อว่าเฟดจะตัดสินใจลดขนาดงบดุลแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดเป็นไปอย่างจำกัด  เรายังเชื่อว่าตลาดจะหมุนกลุ่มเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเหมือนกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณใน SET50/100 รอบใหม่ซึ่งคาดว่าจะประกาศรายชื่อในสัปดาห์นี้ และดัชนี FTSE รอบใหม่ซึ่งจะใช้ราคาปิดในวันที่ 16 มิ.ย.และเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 19 มิ.ย. โดยหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ที่น่าสนใจ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT) ส่วน ดัชนี FTSE Rebalance ที่น่าสนใจคือ EA, BPP, TPIPP

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IHL (ซื้อ/เป้า 10.50 บาท) รับอานิสงส์รัฐบาลจีนสั่งปิดโรงฟอกหนังที่ไม่ได้คุณภาพส่งผลให้กำลังการผลิตโรงฟอกหนังลดลงเป็นบวกต่อ IHL ซึ่งได้ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัว สอดคล้องกับ CPL ที่ออกมาให้ข่าวในวันนี้ว่าได้ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (13 มิ.ย.) ประเมินดัชนี SET ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,558 – 1,570 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบการลงทุน ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกเชิงโมเมนตัมทางเทคนิค เช่น AMATA, GFPT, SAMART

Back to top button