เคาะ 17 หุ้นร้อน SET ไซด์เวย์กรอบแคบ
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มพลังงานและรับเหมาจะยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการที่ภาครัฐฯเตรียมใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ การลงทุนเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.88 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น รับดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ที่ปิดตลาดทำนิวไฮเมื่อคืน เนื่องจากได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มพลังงานและรับเหมาจะยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการที่ภาครัฐฯเตรียมใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ การลงทุนเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก SYNTEC, MTLS, SAWAD, LIT, THANI, STEC, CK, SEAFCO, EA, WORK, TISCO, ASIAN, BR, ORI, BPP, GFPT และ TPIPP
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 มิ.ย.) ว่า SET ฟื้นตัวดีตลอดช่วงบ่ายจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ภาพรวมยังอยู่ในกรอบ 1,560-1,575 จุด ต่อไป ด้วยเศรษฐกิจที่ขยายตัวไม่มาก กำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 5.4% ปีนี้, ดอกเบี้ยต่ำนาน และราคาน้ำมันที่มี upside จำกัด ทำให้เราคาดว่า SET จะมี upside จำกัดที่ 1,600 จุดในปีนี้ แต่ยังสามารถ “Selective” หุ้นกลุ่มหุ้นที่ 1) ผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขึ้นช้า (MTLS SAWAD LIT THANI) 2) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร่งตัวขึ้นใน 2H17 (STEC CK SEAFCO) 3) คาดว่าจะถูกเพิ่มใน SET50/100 สิ้นเดือน มิ.ย.นี้ (EA WORK TISCO MTLS)
แนะนำ “ซื้อ” EA จะถูกเพิ่มในดัชนี FTSET วันที่ 19 มิ.ย.นี้ คาดถูกเพิ่มเข้าไปคำนวนในดัชนี SET50 สิ้น มิ.ย.นี้ ขณะที่กำไรการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการหาดกังหัน #1-#2 รวม 81MW หนุนกำไร 2Q17 และ “ซื้อ” AMATA (ผลดี EEC), WHA, DTAC และ STEC (ได้ประโยชน์ลงทุนภาครัฐฯเร่งตัวขึ้นใน 2H17 โดยเฉพาะรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (14 มิ.ย.) คงมุมมองเป็นกลางต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 คาด SET ยัง Sideways ในกรอบแคบ หุ้นกลุ่มพลังงานและรับเหมาจะยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการที่ภาครัฐเตรียมใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาโครงการรถไฟไทย-จีน รวมถึง แก้ปัญหาการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ สปก. หนุนแรงเก็งกำไรต่อเนื่องในช่วงเช้า
อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีในช่วงบ่ายจะลดช่วงบวกและปิดตลาดในกรอบจำกัดเนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนจะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่จะรู้ผลประชุมเฟดในคืนวันนี้ ส่วนกลุ่มยางพาราที่ปรับขึ้นจากข่าวครม.อนุมัติ 4 มาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางเป็นโอกาสในการขายทำกำไรเนื่องจากเป็นมาตรการเดิมที่ภาครัฐดำเนินการอยู่แล้วเพียงแต่ขยายเวลาออกไปเท่านั้น
ด้านกลุ่มสื่อสารประเด็นจัดตั้งโครงข่ายบอร์ดแบนด์แห่งชาติ ไม่น่าจะส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการที่เป็น Operator โดยเฉพาะ DTAC เนื่องจากไม่มีธุรกิจบอร์ดแบนด์อยู่แล้วและอาจจะเป็นปัจจัยลบต่อ TRUE ได้หากเป็นการแย่งลูกค้า
ยังเน้นเก็งกำไรและลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี (ASIAN BPP BR ORI EA MTLS) และหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณใน SET50/100 รอบใหม่ซึ่งคาดว่าจะประกาศรายชื่อในสัปดาห์นี้ และ ดัชนี FTSE รอบใหม่ซึ่งจะใช้ราคาปิดในวันที่ 16 มิ.ย.และเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 19 มิ.ย. โดยหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ที่น่าสนใจ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT) ส่วน ดัชนี FTSE Rebalance ที่น่าสนใจคือ EA, BPP, TPIPP
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : SYNTEC (ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 5.5) หุ้น SEAFCO/PYLON บวกแรงสะท้อนโมเมนตัมงานก่อสร้างอาคารสูงโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมกำลังจะมา สอดคล้องกับผู้ประกอบการในภาคอสังหาฯเริ่มเปิดขายโครงการมากขึ้น เป็นบวกกับ SYNTEC ซึ่งมี Market Share 50% หรือใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในตลาดงานก่อสร้างอาคารสูงและคอนโดมิเนียม