เล่นรอบโมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่นักลงทุนรู้สึกผิดหวังไปตามกัน เมื่อดัชนีไม่สามารถทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1,575-1,580 จุด แถมในระหว่างวันยังโดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,552.01 จุด ลบไป 17.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.28 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการเล่นรอบนะจะบอกให้


*วานนี้เป็นอีกครั้งที่นักลงทุนรู้สึกผิดหวังไปตามกัน เมื่อดัชนีไม่สามารถทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1,575-1,580 จุด แถมในระหว่างวันยังโดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,552.01 จุด ลบไป  17.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.28 หมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการเล่นรอบนะจะบอกให้

*โดยกรอบการเข้าเล่นในเที่ยวนี้ยังอยู่ในระดับ 1,550-1,570 จุด และเหตุการณ์ดังกล่าวจะวนเวียนไปมาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับในช่วงที่ดัชนีเทกตัวทะลุแนวต้าน 1,550 จุด ตอนนั้นดัชนีแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,520-1,550 จุดร่วมสัปดาห์ “โมนิก้า” ถึงมองการทรุดตัวลงอย่างหนักในเที่ยวนี้ ไม่มีอะไรแตกต่างจากรอบที่ผ่านมา เพราะยุทธวิธียังเหมือนเดิมทุกประการนะซี

*ที่สำคัญคือ เมื่อดูยอดขายที่มาจากกองทุน 3 พันล้านบาท ปอบผีฟ้าอาศัยจังหวะสาดตามน้ำลงมาอีก 3 ร้อยล้านบาท ขณะที่แมงเม่าเข้าไปรับของเต็มๆ 2.45 พันล้านบาท และฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามาเก็บหุ้นอีก 8 ร้อยล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่นักเล่นแต่ละฝั่งกำลังผลัดกันรุก..ผลัดกันรับ เดี๊ยนถึงบอกได้แค่ว่า ใครมีสายป่านยาวกว่า คนนั้นย่อมได้เปรียบนะจะบอกให้

*คิดดูแล้วกัน..วันก่อนหุ้นแบงก์ขึ้นกระฉูด พอคล้อยหลังวันเดียวลงกระจาย ทั้งหมดน่าจะมาจากการกระทำของกองทุนล้วนๆ ไม่ต้องไปหาตรรกะอื่นมาอธิบายให้เสียเวลา เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวยังมีของที่จะเทขายอีกเพียบ เพราะคอนเซ็ปต์การเล่นเป็นแบบตีหัวเข้าบ้าน ยึดหลักกำไรน้อยๆ แต่กำไรถี่ๆ งานนี้เม้าท์กันแบบแฟร์ๆ ไม่มีอ้อมค้อมอะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ต้องคิดกันนิดหนึ่งคงหนีไม่พ้น SENA อยากจะรู้จริงๆ ว่า ใครจะให้คำตอบของการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเที่ยวนี้ได้บ้าง? ครั้นจะหันไปถามใคร ก็คงไม่มีใครอยากจะเม้าท์ เพราะเรื่องนี้รู้กันภายในกลุ่มดีสุด “โมนิก้า” ถึงได้แต่ร้อง แบะ..แบะ เพียงอย่างเดียว ล่าสุดหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 4.90 บาท บวกไป 0.58 บาท หรือขึ้นไป 13.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 1 พันล้านบาท แมงเม่าก็เลยต้องบินเข้ากองไฟต่อไปไงล่ะพ่อคุณ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของ TGCI มองในมุมของเหตุการณ์เก่าๆที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาหยกๆ เหมือนเป็นการปั่นกระแสกันธรรมดา แต่เบื้องหลังอาจมีอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น “โมนิก้า” ในฐานะสาวมาดมั่นที่ชอบเผือกเรื่องของชาวบ้าน จึงไม่เชื่อว่า การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.10 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 10% มาจากปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะซี

*ตรงกันข้ามกับในรายของ PPP มองในมุมของ “ม้าแก่ชำนาญทาง” พล็อตเรื่องถูกวางไว้เป็นอย่างดี หุ้นส่วนใหญ่ยังอยู่ในมือกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ บวกกับสัดส่วนสำคัญทางการเงินต่างๆ ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การจุดกระแสความอยากถึงทำได้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยใส่ปาก ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7% ถือเป็นการดันหุ้นรอบใหม่ก็ได้นะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ S11 หุ้นสินเชื่อมอเตอร์ไซค์น้องใหม่เอี่ยมถอดด้าม มองในมุมของความสามารถในการแข่งขันกับเจ้าอื่นๆ “โมนิก้า” ยังไม่เห็นโชว์อะไรออกมาให้ชื่นใจเลยสักเรื่อง และเมื่อเหลือบดูค่า P/E ที่ปาเข้าไป 33 เท่า บวกกับการเติบโตในไตรมาส 1 ยังไม่รู้จะ ออกหัว หรือ ออกก้อย มันเป็นเกมวัดใจที่ผู้เล่นต้องไตร่ตรองดูดีๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 12.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ลงไปทำ low ที่ระดับ 9 บาท มันเป็นการขึ้นที่เร็วเกินไปอะป่าว..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่อง ความเร็ว ความแรง “โมนิก้า” ชอบหันมามองดาวรุ่งผีพุ่งใต้เป็นประจำ และรายล่าสุดที่ปรากฏตัวให้เห็นก็คือ SCP เพราะในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก็สร้างปรากฏการณ์วูบวาบ สุดท้ายก็ร่วงหล่นเละเทะเป็นประจำ แถมปรากฏการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว 2 รอบใหญ่ๆ  ส่งผลให้การทะยานขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 9% แถมเป็นการขึ้นแรงวันแรกเสียด้วยแบบนี้..หนังเรื่องยาวแน่นอนเจ้าค่ะ

*กรณีเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ CYBER พอประเด็นข่าวสารทุกอย่างเป็นที่แน่ชัดว่า “พูดจริง ทำจริง” แรงซื้อก็ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.88 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 680 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยว่า ฟ้าหลังฝนย่อมจะเต็มไปด้วยท้องฟ้าที่สดใส จังหวะนี้เป็นการเล่นตามน้ำยาวๆ เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือมากถึง 520 เมกกะวัตต์ มันคือตัวสร้างแวลูให้กับหุ้นในอนาคตไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ CHO เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง แผนงานทุกอย่างเริ่มเดินไปในทางที่ต้องการ หลังจากนี้ย่อมเห็นอัตราการเติบโตของกำไรอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.94 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 162 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะคนที่ชอบหุ้นที่มีพัฒนาการแบบโตก้าวกระโดด..หุ้นตัวนี้แหละ คือ คำตอบ นะจะบอกให้

Back to top button