แบงก์ไตรมาส 1/58ลูบคมตลาดทุน
หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (11 แห่ง) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/58 กันออกมาครบทุกแห่งแล้ว
ธนะชัย ณ นคร
หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (11 แห่ง) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/58 กันออกมาครบทุกแห่งแล้ว
กำไรสุทธิรวมกันกว่า 5.24 หมื่นล้านบาท
เติบโตจากไตรมาส 1/57 ราวๆ 3.08%
ตัวเลขกำไรนี้ ก็น่าจะใกล้เคียงกับที่บรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดการณ์ไว้นั่นแหละ
หรืออาจมากกว่าเล็กน้อยครับ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ มีธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย 2 แห่ง แจ้งตัวเลขกำไรสุทธิออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ค่อนข้างมาก
นั่นก็คือ แบงก์ทีเอ็มบี และกรุงไทย
ทีเอ็มบีนั้น เป็นแห่งแรกที่แจ้งผลประกอบการออกมาเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก และนั่นทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารดูจะเสียทรงไปพอสมควร
หากดูจากกำไรปกติของทีเอ็มบี หรือก่อนตั้งสำรองฯ ก็ถือว่าค่อนข้างดี
ทว่าตัวเลขเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นจาก 2.9% มาเป็น 3.01% ทำให้ต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจากปกติพอสมควร รวมถึงมีการตั้งสำรองเพื่อรองรับเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวด้วย
หากดูจาก NPL Coverage Ratio ที่ระดับ 150% ก็นับว่าสูงครับ
และสูงเป็นอันดับต้นๆ ของหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย
ถามว่าหากทีเอ็มบีต้องการโชว์ตัวเลขกำไรสุทธิงวดนี้สูงกว่านี้ ก็ทำได้เพียงแต่ต้องแลกกับตัวเลข NPL Coverage Ratio ลดต่ำลง
แต่ทีเอ็มบีไม่เลือกวิธีการแบบนี้
วิธีอาจดูค่อนข้าง Conservative ไปหน่อย แต่นี่ก็คือสไตล์การบริการของทีเอ็มบีในยุค “บุญทักษ์ หวังเจริญ”
ตั้งการ์ดให้แน่นไว้ก่อน
ส่วนไตรมาส 2 และที่เหลือของปีนี้ หากคุมตัวเลขหนี้เสียได้ ก็มีโอกาสที่ทีเอ็มบีจะแสดงตัวเลขกำไรออกมาแบบปกติ และเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้
ผ่านมาถึงทีเอ็มบียังเผชิญกับ Panic Sell
เพราะนักลงทุนกังวลว่า หนี้เสียจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
แต่หากดูจากบทวิเคราะห์ของโบรกฯ ต่างๆ แม้จะมีคำแนะนำจาก “ซื้อ” มาเป็น “ถือ” บ้าง
ทว่าส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อครับ เพราะมั่นใจว่าทีเอ็มบีจะคุมหนี้เสียได้ และจะกลับมาตั้งสำรองในระดับปกติ ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้
หันมาแบงก์กรุงไทยกันบ้าง
นักลงทุนผิดหวังกันพอสมควรเช่นกัน เพราะตัวเลขเอ็นพีแอลในกลุ่มเอสเอ็มอีปรับขึ้น
ทำให้ต้องตั้งสำรองมากกว่าปกติ และกดดันให้กำไรสุทธิปรับลดลง 5% จากไตรมาส 1/57 และราคาหุ้นวานนี้ก็ร่วงลงถึง 6.11%
กรุงไทยเพิ่มจะขึ้น XD เมื่อ 21 เม.ย.เอง
ก่อนขึ้น XD มีการดีดลูกคิดกันออกมา ผลตอบแทนเงินปันผลของกรุงไทยสูงกว่า 4% และโดดเด่นสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่เลยล่ะ
นี่ใครซื้อไว้ และมาเจอกับแรงขายวานนี้
บวกลบกันแล้วก็คงขาดทุนครับ
เว้นแต่มองแบบคิดบวก คือ ถือไว้ยาวๆ ลงทุนระยะยาวไปโน่นเลย
ตัวเลขกำไรสุทธิโดยรวมของกลุ่มธนาคาร แม้จะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และธนาคารขนาดใหญ่ทั้ง SCB และ BBL จะโชว์ตัวเลขกำไรมากกว่าที่โบรกฯ คาดการณ์
แต่หากดูจากตัวเลขหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล ก็ต้องจับตากันต่อไปครับ
เพราะเพิ่มขึ้นเกือบทุกแห่ง (แม้จะไม่มากนัก)
มีเพียงธนชาตเท่านั้น ที่ตัวเลขเอ็นพีแอลลดลงจาก 4.21% ในไตรมาส 1/57 ลงมาเหลือ 4.07 ในไตรมาส 1/58 ส่วนกำไรสุทธิค่อนข้างทรงตัว
ก่อนหน้านี้ สถาบันจัดอันดับความน่าชื่อ เช่น มูดี้ส์ และจากญี่ปุ่น ยังมีมุมมองเชิงบวกกับผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ของไทย
พร้อมกับชมเปาะว่า เงินกองทุนแข็งแกร่ง
และสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ แบบยืนระยะได้เป็น 2-3 ปี
ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ชื่นชม
นี่หากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดูเข้มข้นกว่านี้ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐทำได้รวดเร็ว ดูเป็นเนื้อเป็นหนัง ก็น่าจะเป็นข่าวดี และเป็นบวกกับกลุ่มแบงก์
มองแบบบวกๆ เข้าไว้