EARTH เหยื่อ(อธรรม)แบงก์โหด
เช้าวานนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศขึ้นเครื่องหมาย H หรือหยุดพักการซื้อขายหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ในรอบเช้า (รวมถึงสัญญา EARTH Futures) เพื่อให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงว่าปัจจุบันบริษัทยังคงสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติหรือไม่ อย่างไร และชี้แจงถึง ผลระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท เหตุผลก็เพราะว่า EARTH แจ้งการผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินเกินกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัท 5,500 ล้านบาท
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
เช้าวานนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศขึ้นเครื่องหมาย H หรือหยุดพักการซื้อขายหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ในรอบเช้า (รวมถึงสัญญา EARTH Futures) เพื่อให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงว่าปัจจุบันบริษัทยังคงสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติหรือไม่ อย่างไร และชี้แจงถึง ผลระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท เหตุผลก็เพราะว่า EARTH แจ้งการผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินเกินกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัท 5,500 ล้านบาท
ก่อนที่ในภาคบ่าย จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพราะเหตุผลว่า EARTH ยังไม่ได้ชี้แจงว่าการผิดนัดชำระหนี้ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจตามปกติ ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานอย่างไร ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์…จนกว่าจะชี้แจงข้อมูลครบถ้วน
มองอย่างผิวเผิน นี้คือ ข่าวร้าย แต่..ความจริงถือเป็นข่าวดี เปิดช่องให้ได้เหยื่อของชะตากรรม ร้องขอความยุติธรรมบ้าง ดีกว่าศาลเตี้ยของราชินีไพ่…ตัดหัวก่อน สืบพยานทีหลัง
ทันทีทันควัน นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการของ EARTH ก็ได้ออกหนังสือชี้แจงไม่รั้งรอ ซึ่งมีสาระสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตาสว่างในกลุ่มนักลงทุน และนักวิเคราะห์กันอย่างมาก…ไม่รวม “ฟ้ามีตา” อีกต่างหาก
รู้ได้ทันทีว่างานนี้ ใครกันแน่เป็นผู้ร้ายตัวจริง….ใครกันแน่เป็นเหยื่ออธรรม
เอกสารของนายธนาวรรธน์ที่ชี้แจงมีน้ำหนักน่ารับฟัง ดังต่อไปนี้
- ในช่วงที่ผ่านมา EARTH ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องค้างชำระหนี้ไม่ว่าจะเงินต้นหรือดอกเบี้ยหรือชำระหนี้ล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียว
- ปลายเมษายน 2560 สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง…(ไม่ระบุชื่อ)…ได้แจ้ง EARTH ให้ระงับการใช้วงเงินชั่วคราว และลดภาระหนี้ที่มีต่อสถาบันการเงินดังกล่าวให้เหลือ 5,000 ล้านบาท โดยมีผลทันที
- ช่วงเวลาดังกล่าว EARTH ได้วางแผนออกหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดหาวงเงินหมุนเวียนเพิ่มเติม เพื่อชำระเงินกู้ประมาณ 3,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัทแต่หุ้นกู้ดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาจากสถาบันการเงิน
- ในเดือนพฤษภาคม 2560 สถาบันการเงินดังกล่าวได้ล็อกบัญชีทั้งหมดของบริษัทที่มีกับสถาบันการเงิน ทั้งที่บริษัทยังมิได้ผิดนัดชำระหนี้หรือผิดเงื่อนไขกับทางสถาบันการเงินแต่อย่างใด ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนสำรองได้ทัน
- ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน EARTH ได้จ่ายเงินชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน 4,122 ล้านบาท จากสาเหตุข้างต้น ทำให้บริษัทสูญเสียสภาพคล่อง และผิดนัดชำระหนี้ตัวแลกเงินในที่สุด
- ผลกระทบของการผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงิน จะได้กลายเป็นลูกโซ่ที่อาจมีต่อหนี้อื่น เช่น หุ้นกู้ที่บริษัทท่านได้ออกและเสนอขาย และหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
- วันที่ 14 มิถุนายน 2560 EARTH มีภาระหนี้ที่ผิดนัดชำระกับสถาบันการเงินรวมจำนวน 717,504,097.97 บาท เข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2558 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2560 และหุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2559 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2562 ซึ่งบริษัทจะแจ้งนายทะเบียนหุ้นกู้ถึงเหตุผิดนัดดังกล่าว
- สถาบันการเงินอื่นๆ ได้พิจารณาทบทวนวงเงินสินเชื่อทั้งหมดของบริษัทอีกครั้ง ทำให้บริษัทไม่สามารถใช้วงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ รวมทั้งไม่สามารถออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงินฉบับใหม่เพื่อทดแทนตั๋วแลกเงินฉบับเดิมที่จะถึงกำหนดชำระ
- บริษัทถูกลดระดับความน่าเชื่อถือ (เพราะถูกปรับลดอันดับจาก BBB- เป็น D โดยทริสเรทติ้ง ลดลง 11 อันดับ) จากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทำให้บริษัทต้องดำเนินธุรกรรมต่างๆ ในรูปแบบเงินสดมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท
ถึงบางอ้อกันเสียทีว่า รากเหง้าของปัญหา EARTH เกิดจากรังสีอำมหิตของนายธนาคารพาณิชย์ไทย…คงไม่ต้องเอ่ยชื่อหรอก…รู้อยู่แล้วว่าเป็นใครอื่นไม่ได้ นอกจาก…..จุ๊ จุ๊ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
โหดอย่างนี้ ต้องยกให้เขาละ…เชื้อโรค “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าลูกค้า” ไม่เคยตายเลยจริงๆ..ให้ดิ้นตาย
ตอนที่ธุรกิจเป็นขาขึ้น…ก็ไปอ้อนวอนงอนง้อ ขอให้เขามาเป็นลูกค้า ปล่อยเงินกู้ เท่าไหร่เท่ากัน…พอเขาสะดุด หรือทำท่าซวนเซ…อ้างกฎเหล็ก กระชากเครดิตไลน์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า…แบบว่า ตัวใคร ตัวมัน
อย่างนี้ ลูกค้ารายไหนเจอเข้า..ก็คงต้อง “รากเลือด” แบบที่เสี่ย ขจรพงศ์ คำดี กับพวก แห่ง EARTH ที่ต้องทนกระเสือกกระสน กับข้อหาใช้เงินผิดประเภท..หรือ…ฯลฯ..ในฐานะผู้ร้ายของเจ้าหนี้ และนักลงทุน…ทั้งที่งบการเงินไตรมาสแรกที่ผ่านมือผู้ตรวจสอบบัญชีมาแล้ว ระบุชัดเจนว่าสุขภาพทางการเงินของ EARTH ยังแจ่มแจ๋วต๊ะติ๊งโหน่ง เพราะมีกำไรสะสมอยู่ 3,897.33 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 10,686 ล้านบาท มี current ratio 1.1 เท่า
เจ้าหนี้รุ่นเก่าหน้าของวงการตั๋ว บี/อี และหุ้นที่รู้จัก EARTH ดี..และเคยได้กำไรเป็นกอบเป็นกำมาตลอด 5 ปีนี้ อ่านคำชี้แจงนี้แล้วก็คงเลิก “อึ้งกิมกี่”…เพราะรู้แล้วว่า ผู้ร้ายตัวจริงงานนี้เป็นใคร
ฆาตกรใส่สูทในนามนายธนาคารพาณิชย์…ผู้เลือดเย็นยิ่งกว่า ไซมึ้งชวยเสาะ..จอมกระบี่เป่าหิมะ
เพราะในกายมี เลือดสีฟ้า…
อิ อิ อิ