สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และจากความวิตกกังวลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,359.90 จุด ลดลง 14.66 จุด หรือ -0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,432.46 จุด ลดลง 5.46 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,165.50 จุด ลดลง 29.39 จุด หรือ -0.47%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้หรือไม่ หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 386.05 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,216.88 จุด ลดลง 26.41 จุด หรือ -0.50% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,691.81 จุด ร่วงลง 114.14 จุด หรือ -0.89% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,419.36 จุด ลดลง 55.04 จุด หรือ -0.74%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 1 เดือน เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินปอนด์ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ท่ามกลางความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างกรรมการ BoE เกี่ยวกับทิศทางการกำหนดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมีกรรมการ 3 คนจาก 8 คนที่ตัดสินใจโหวตสวนมติเสียงส่วนใหญ่ ด้วยการสนับสนุนให้ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นอย่างมากในระยะนี้

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 55.04 จุด หรือ -0.74% ปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,419.36 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่าการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาดได้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 46.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง อย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 21.3 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 1,254.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 42 เซนต์ หรือ 2.45% ปิดที่ 16.716 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 30.6 ดอลลาร์ หรือ 3.21% ปิดที่ 921.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.15 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 857.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) ขณะนักลงทุนซึมซับมติของที่ประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุด ซึ่งได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1154 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1217 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2762 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2648 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7583 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7585 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.84 เยน จากระดับ 109.64 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9719 ฟรังก์สวิส

Back to top button